ชุดถ่วงหรือ Stabilizer คือชิ้นส่วนที่มีลักษณะเป็นท่อ ยื่นออกไปด้านหน้าของคันธนู สามารถใส่ได้บนคันธนูแบบ Recurve และ Compound คนที่ยังไม่คุ้นเคยกับการยิงธนู อาจจะสงสัยว่าท่อหน้าแปลกๆนี้ ใส่เข้าไปเพื่ออะไร ?
Stabilizer เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากสำหรับการแข่งขันยิงธนู เพราะว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้มีประโยชน์ที่สำคัญ 2 อย่างด้วยกัน นั่นคือ เป็นตัวช่วยที่ทำให้นักยิงธนูสามารถถือคันธนูและเล็งได้นิ่งยิ่งขึ้น ทำหน้าที่เป็นตัวถ่วงน้ำหนัก ย้ายน้ำหนักให้ไปอยู่ด้านหน้าของคันธนู สร้างสมดุลในการถือเล็ง เมื่อเล็งได้นิ่งขึ้น ความแม่นยำก็จะมากขึ้น
อีกประโยชน์ของ Stabilizer ก็คือช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงของคันธนู ส่งผลให้ควบคุมคันธนูได้ง่ายในจังหวะปล่อยสาย ให้ความรู้สึกในการยิงที่นุ่มสบาย
Stabilizer ในปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อและรูปแบบมาก โดยส่วนใหญ่แล้ว Stabilizer ทุกรุ่นสามารถใส่ได้กับทั้งคันธนู Recurve และ Compound แต่จะมีบางรุ่นที่ออกแบบมาเหมาะสำหรับธนูบางประเภทโดยเฉพาะ ข้อดีอย่างหนึ่งของอุปกรณ์ธนูในปัจจุบันก็คือทุกยี่ห้อใช้ขนาดเกลียวขนาดมาตรฐานที่เท่ากัน ทำให้ Stabilizer ทุกรุ่นสามารถใส่กับคันธนูรุ่นไหนก็ได้ ไม่ต้องกังวลว่าซื้อไปแล้วจะใส่ไม่ได้
ข้อควรระวังอย่างหนึ่งคือคันธนูจะหนักขึ้นมากเมื่อใส่ชุดถ่วงเข้าไป ดังนั้นสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มหัดยิง แนะนำว่าควรฝึกซ้อมให้คล่องและชินกับคันธนูก่อน แล้วค่อยใส่เพิ่ม เพราะหากยังไม่ชินกับน้ำหนัก แทนที่ Stabilizer จะช่วยให้เล็งได้นิ่งขึ้น จะทำให้คันธนูหนักเกินไปจนนักธนูถือไม่ไหว และมีผลการยิงที่แย่ลงแทน
นอกจากอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว เทคนิคการยิงก็จะมีรายละเอียดมากขึ้นด้วย เมื่อใส่ Stabilizer เข้าไป จะต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Slinger หรือเชือกคล้องคันธนู และปรับเทคนิคการยิงเล็กน้อย สามารถดูรายละเอียดได้จากวิดีโอด้านด้านล่าง (ช่วงท้ายของวิดีโอเรื่อง Recurve Stabilizer)
การใส่ Stabilizer สำหรับธนู Recurve
ตำแหน่งและชิ้นส่วนการใส่ Stabilizer ของธนู Recurve และ Compound จะแตกต่างกัน เริ่มต้นกันที่ธนู Recurve กันก่อน สำหรับการใส่ชุดถ่วงบนคันธนู Recurve ถ้าใส่แบบครบชุดแล้วจะประกอบด้วย 4 ส่วนคือ
- Long Rod หรือก้านถ่วงยาว คือตัวท่อยาวที่อยู่ด้านหน้าสุด
- Side Rod หรือก้านถ่วงข้าง คือท่อที่ชี้ออกไปด้านข้าง 2 ฝั่ง
- Extender หรือก้านถ่วงสั้น คือตัวท่อสั้นที่ต่อเข้ากับคันธนู
- V-Bar คือชิ้นส่วนตรงกลางที่ใช้ต่อ Long Rod, Side Rod และ Extender เข้าด้วยกัน
คันธนูที่จะใส่ Stabilizer ครบชุดนั้น ควรจะมีน้ำหนักดึงประมาณ 30 ปอนด์ขึ้นไป เพื่อให้ได้น้ำหนักที่สมดุลกัน หากน้ำหนักดึงต่ำกว่านี้ ควรจะใส่เพียงแค่ Long Rod อย่างเดียว
นักธนู Recurve ที่เริ่มต้นใส่ Stabilizer เข้ากับคันธนู จะไม่แนะนำให้ใส่ทั้ง 4 ส่วนเข้าไปในครั้งเดียว แต่จะแนะนำว่าให้ใส่เพิ่มเข้าไปที่ละส่วน เพราะการใส่ชุดถ่วงทั้งหมดนี้เข้าไป จะทำให้คันธนูหนักขึ้นมาก หากไม่คุ้นเคย จะทำให้ยิงได้ยากและมีผลการยิงที่แย่ลง โดยขั้นแรกเราจะใส่ Long Rod อย่างเดียวก่อน หลังจากคุ้นเคยกับน้ำหนักและเทคนิคการยิงที่จำเป็นแล้วค่อยเพิ่มชิ้นส่วนอื่นๆ เข้าไป

ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ Stabilizer รุ่นต่างๆ ได้ที่นี่
การใส่ Stabilizer สำหรับธนู Compound
คันธนู Compound จะมีการใส่ชุดถ่วง ได้ 2 รูปแบบด้วยกัน การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับลักษณะของคันธนูและความชอบของนักธนูแต่ละคน
การถ่วงคันแบบ Hunting
สำหรับคันธนูแบบ Hunting ซึ่งมักจะเป็นคันธนูขนาดสั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่เหมาะกับการใส่ชุดถ่วงยาวๆ แบบคันแข่งขัน โดยทั่วมักจะใส่เพียงแค่ Stabilizer สั้นๆ เพื่อช่วยในการซับแรงสั่นสะเทือนและเสียงของคันธนู Stabilizer บางรุ่นจะมีลักษณะเป็นยางที่ช่วยซับแรง แต่ไม่ได้มีน้ำหนักถ่วงเพิ่มเติม

ในขณะที่บางรุ่นจะมีน้ำหนักถ่วงปลายมาให้ และสามารถใส่น้ำหนักเพิ่มให้หนักขึ้นได้ ช่วยทั้งในเรื่องการเล็งและการซับแรง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแต่งคันธนูให้ยิงได้ง่ายขึ้น เป็นตัวที่เหมาะกับคนที่อยากยิงแบบสนุกๆ ไม่ต้องการใส่ตัวถ่วงยาวๆ ที่อาจจะทำให้รู้สึกเกะกะ

การถ่วงคันแบบ Target
ในการแข่งขันยิงเป้านั้นเราต้องการความนิ่งในการเล็งให้มากที่สุด การถ่วงคันธนู Compound มักจะใส่ Long Rod ยาวด้านหน้า และใส่ Side Rod ด้านข้าง 1 อัน สำหรับการใส่ตัวถ่วงข้าง จะนิยมใส่ข้างเดียว โดยจะอยู่ในฝั่งตรงข้ามกับศูนย์เล็ง เพื่อเป็นการเพิ่มสมดุลซ้ายขวาของคันธนู


ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ Stabilizer รุ่นต่างๆ ได้ที่นี่
ความแตกต่างระหว่าง Stabilizer รุ่นต่างๆ
Stabilizer มีหลายรุ่นหลายระดับราคามาก ส่วนใหญ่แล้วจะแตกต่างกันที่วัสดุในการผลิต มีตั้งแต่ราคาพันกว่าบาทไปจนถึงเกือบสองหมื่นบาท รุ่นราคาเริ่มต้นมักจะผลิตจากท่อคาร์บอนหรืออลูมิเนียมธรรมดา ไม่ได้มีหลักการออกแบบที่ซับซ้อน สำหรับมือใหม่ที่อยากใส่ Stablizer ก็อาจจะเริ่มต้นจากรุ่นราคาไม่แพงก่อนก็ได้

แต่สำหรับใครที่ต้องการอุปกรณ์ที่ดี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องความแม่นยำสำหรับการแข่งขัน หรือต้องการอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ยาวๆ ก็อาจจะขยับไปเล่นในรุ่นที่สูงขึ้นไป ช่วงราคาประมาณ 3,000-5,000 พันบาท อุปกรณ์ในกลุ่มนี้จะผลิตด้วยวัสดุที่เกรดดีขึ้น ทำให้ทนและใช้งานได้นาน สร้างสมดุลได้ดีกว่า และข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดจากรุ่นเริ่มต้นคือการซับแรง ด้วยวัสดุที่ดีขึ้นจะทำให้ลดแรงสั่นของคันธนูลงไปได้มากขึ้นจนรู้สึกได้เลย

ถ้าขยับไปในรุ่นเกรดดีๆ ที่นักกีฬานิยมใช้กัน อาจจะราคาอยู่ในช่วงประมาณ 10,000 บาท จะมีประสิทธิภาพในการซับแรงที่ดีมาก ให้ความรู้สึกในการยิงที่นุ่ม แบบคนละเรื่องกับก่อนใส่ Stabilizer เหมือนเป็นธนูคนละคันกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับคันธนูที่น้ำหนักดึงสูงๆ รุ่นระดับนี้มักจะผลิตจาก High-Modulus Carbon ซึ่งคาร์บอนเกรดพิเศษที่มีโครงสร้างต่างจากคาร์บอนทั่วไป ให้ความแข็งมากกว่า ทำให้สามารถใส่น้ำหนักถ่วงได้เยอะ มีการสะบัดตัวน้อย ให้สมดุลได้ดีมากทั้งจังหวะเล็งและจังหวะที่ปล่อยสายออกไป

วิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการเลือก Stabilizer คือการทดลองยิง เพราะแต่ละรุ่นจะให้ความรู้สึกในการยิงที่ไม่เหมือนกัน หากเพียงเราอ่านแต่สเปคแล้วไม่ได้ลองยิงจริง ก็อาจจะไม่ได้ตัวที่ถูกใจที่สุด บางตัวดูสเปคแล้วคล้ายๆกัน แต่ถ้าได้ลองยิงแล้วจะรู้สึกแตกต่างกัน ปกติถ้าไปที่ร้านธนู จะสามารถขอลอง Stabilizer รุ่นต่างๆ ได้อยู่แล้ว หลังจากได้ลองยิงให้เลือกรุ่นที่ให้ความรู้สึกในการยิงที่ชอบที่สุด รับรองว่าถ้าใช้ชุดถ่วงเหล่านี้ได้คล่องแล้วจะทำให้ผมการยิงดีขึ้นอย่างแน่นอน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ Stabilizer รุ่นต่างๆ ได้ที่นี่
หากมีคำถามเกี่ยวกับ Stabilizer สามารถสอบถามทีมงานของ ArcheryThai ได้ที่
Line ID : @archerythai
Facebook : สนามยิงธนู ArcheryThai