ผมนั่งลงที่โขดหินข้าง Soda Butte Creek ลำน้ำเล็กๆที่ไหลผ่าน Lamar Valley หุบเขาที่มีผู้กล่าวว่าเป็นพื้นที่ตัวแทนของท้องทุ่งตะวันตกอเมริกาในยุคก่อนที่คนขาวจะมาถึงทวีปนี้ เพราะมันยังคงสภาพธรรมชาติไว้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง และยังจัดว่าเป็นหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในเรื่องของสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ Yellowstone เลยทีเดียว
พระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าส่องแสงสีส้มเรืองรองไปทั่วท้องฟ้า, ผืนแผ่นดินและสายน้ำที่ไหลโค้งมากลางทุ่ง ขนาบด้วยเทือกเขาสูงรอบด้าน

ผมเคยมา Yellowstone National Park ก่อนหน้านี้แล้วถึง 4 ครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่ผมได้เห็นธรรมชาติที่แท้จริงของ Yellowstone นอกแผนที่แนะนำนักท่องเที่ยวได้เท่าครั้งนี้
คงจะเป็นเพียงเพราะการตกปลาแบบ Fly Fishing ที่พาผมเข้ามาพบกับสายน้ำและธรรมชาติพิศุทธิ์ของ Yellowstone ได้เช่นนี้
ในขณะที่นั่งชมธรรมชาติอยู่อย่างเงียบๆ ผมก็สังเกตเห็นปลาตัวหนึ่งขึ้นจิบที่ผิวน้ำตรงหน้า
ด้วยความหวังเล็กๆว่า นั่นอาจจะเป็น Yellowstone Cutthroat Trout ปลาเฉพาะถิ่นที่มีแต่ในลุ่มแม่น้ำ Yellowstone เท่านั้น ผมค่อยๆคลานเข่าลงไปที่ริมน้ำและเหวี่ยงสายส่งเหยื่อลงไปที่ผิวน้ำอย่างระมัดระวังที่สุด
Trout Shangri-la
เรามาถึง Yellowstone National Park ก่อนหน้านั้น 5 วัน
มีคนเคยกล่าวไว้ว่ามาตกปลาที่ Yellowstone ไม่ต้องรีบร้อน เพราะในระบบนิเวศน์ของ Yellowstone มีสายน้ำน้อยใหญ่กว่าหนึ่งพันสาย ความยาวรวมกันกว่า 4,000 กิโลเมตร นอกจากนั้นยังมีบึงและทะเลสาบอีกกว่า 600 แห่ง รีบยังไงก็ไม่สามารถตกปลาได้ทั่วในชั่วชีวิตนี้!
และนั่นก็คือแผนของเรา “ไม่รีบร้อน” ในวันแรกที่เดินทางไปถึง เราแวะนั่งกินเบียร์และสเต็กกันอย่างสบายใจโดยไม่ได้จับเบ็ดเลยแม้แต่น้อย ที่เมือง Gardiner เมืองคาวบอยเก่าแก่ที่กำเนิดมาพร้อมๆกับ National Park และตั้งอยู่หน้าประตูเข้าอุทยาน ทางทิศเหนือ

“เรา” ในที่นี้มีเพียง ผมและ“พี่ธิติ” สหายที่ผมเรียกว่า Fisherman’s Friend เราสองคนเดินทางตกปลาด้วยกันในที่แปลกๆและห่างไกลมาหลายที่ ทุกที่ที่ไปเราสองคนตกปลากันอย่างสนุกสนานมีความสุขไม่ว่าจะได้ปลาหรือไม่
นั่นอาจจะเป็นเพราะ เราทั้ง 2 คนเหมือนกันตรงที่ว่า เราไม่เคยคาดหวังจะได้ปลา หรือปลาใหญ่จนเคร่งเครียดเกินไป เราดีใจเมื่อเพื่อนตกปลาได้มากกว่าที่จะตกได้เอง ขอเพียงได้ไปตกปลาในที่สวยงามและนั่งกินเบียร์เย็นๆกันตอนสิ้นวันก็เพียงพอ

จะเรียกเราสองคนว่า “นักตกปลา” ก็คงไม่เชิง
เดือนตุลาคม อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ เราได้รับคำแนะนำจาก “Park Fly Shop” ร้านตกปลาเก่าแก่ของ Gardiner ว่าจุดที่ดีที่สุดตอนนี้คือแม่น้ำที่มีน้ำจากน้ำพุร้อนไหลลงมาทำให้น้ำอุ่น
การไปตกฟลายในอเมริกานั้น แหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดคือร้านตกฟลายในพื้นที่ครับ เขาจะรู้จักแม่น้ำในบริเวณนั้นเป็นอย่างดี และรู้สถานการณ์ล่าสุดของแต่ละแม่น้ำ แมลงอะไรกำลัง Hatch และเหยื่ออะไรจะได้ผลที่สุด ถ้าเป็นแหล่งตกปลายอดนิยมอย่าง Yellowstone นี้จะมีร้านอยู่ทุกเมืองเล็กเมืองน้อยและใกล้แม่น้ำสายดังๆทุกเส้น มีมากพอๆกับร้านสะดวกซื้อเลยทีเดียว ร้านเหล่านี้เขาจะยินดีให้ข้อมูลกับคนที่เดินเข้าไปถาม และตามมารยาทก็ควรจะอุดหนุนซื้อของเขาบ้างโดยเฉพาะเหยื่อฟลายที่เขาจะสามารถแนะนำเหยื่อดีๆที่ปลาในบริเวณนั้นกำลังกินในช่วงเวลานั้นให้เราได้


หลายคนคงสงสัยซิครับว่า Yellowstone เป็นอุทยานแห่งชาติ เข้าไปตกปลาได้ด้วยหรือ ไม่โดนจับเหมือนดีเจดังที่ตกปลาในเขตอุทยานเมืองไทยหรือ
ไม่โดนจับครับ เพราะในอุทยานของอเมริกาเขาไม่ได้ “ห้าม” ตกปลา เขาถือว่าการตกปลาอย่างถูกต้องเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ เพราะจะทำให้คนเห็นคุณค่าของปลาในธรรมชาติและร่วมกันดูแลรักษา นอกจากนี้รายได้จากการขายใบอนุญาตตกปลาก็เป็นเงินสนับสนุนการอนุรักษ์ปลาโดยตรง และยังมีประโยชน์ทางอ้อมคือดึงดูดนักตกปลาให้มาเที่ยวอุทยาน, สร้างรายได้ให้กับอุทยานและชุมชนรอบๆอุทยานด้วย ใบอนุญาตตกปลานี้ เจ้าหน้าที่อุทยานขายเอง ซื้อได้ในที่ทำการอุทยานเลยครับ

เขาไม่ได้ “สักแต่ว่าห้าม” เหมือนบางประเทศ แต่เขาต้ังใจศึกษาและออกกฎระเบียบเพื่อการอนุรักษ์ปลาที่ละเอียด เหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์มากกว่านั้นมากครับ
เช่นในลุ่มแม่น้ำ Yellowstone ซึ่งเป็นพื้นที่อาศัยอยู่ของปลา Yellowstone Cutthroat Trout มาแต่ดั้งเดิมนั้น นักตกปลาทุกคนหากตก Yellowstone Cutthroat ได้จะต้องปล่อยทุกตัว, ถ้าเป็นปลาที่ไม่ใช่ปลาพื้นถิ่นเดิมอย่าง Rainbow, Brown หรือ Brook Trout จะเอาไปกินกี่ตัวก็ได้ แต่ถ้าเป็น Lake Trout ปลาแปลกถิ่นที่เป็นศัตรูหลักของ Yellowstone Cutthroat จะต้องฆ่าห้ามปล่อยลงน้ำเด็ดขาด
แต่ถ้าเป็นเขตลุ่มแม่น้ำอื่นๆเช่น Firehole, Lewis, Madison ฯ เป็นแม่น้ำที่ไม่เคยมี Yellowstone Cutthroat อยู่ตั้งแต่แรกก็จะเก็บได้เฉพาะ Brook Trout ได้วันละไม่เกิน 5 ตัวต่อคน ปลาอื่นๆต้องปล่อยกลับลงน้ำทั้งหมด

กฎกติกาเหล่านี้เป็นกฎภายในอุทยานซึ่งแตกต่างไปจากกฎการตกปลาภายนอก และจะมีการปรับเปลี่ยนเรื่อยๆขึ้นกับผลการศึกษาวิจัยปลาในธรรมชาติที่เขาทำกันอย่างต่อเนื่อง
เราตระเวนตกปลากันไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ Gardinier River ที่อยู่ใกล้เมืองที่เราพัก, Gibbon River แม่น้ำสวยที่ไหลผ่านกลางทุ่ง ไปจนถึง Firehole River บางจุดก็อยู่ริมถนน บ้างแห่งก็ต้องเดินป่าเข้าไปไกล




จริงอย่างที่ร้านฟลายบอก อากาศเย็นอย่างนี้ไม่มีที่ไหนจะดีไปกว่าแม่น้ำที่มีนำ้พุร้อนไหลลงมาทำให้น้ำอุ่นอย่าง Firehole river ที่อยู่ใจกลางอุทยาน Firehole เป็นแม่น้ำที่ยาวหลายสิบกิโลเมตรและมีจุดตกปลาเด็ดๆหลายที่ เราตกปลาที่แม่น้ำนี้กันหลายวันจนตัดสินใจย้ายไปพักที่เมือง West Yellowstone ที่ใกล้แม่น้ำนี้มากกว่า




จุดที่สวยที่สุดช่วงหนึ่งของ Firehole river อยู่ท้ายน้ำลงมาจาก Midway Geyser ช่วงนี้แม่น้ำโค้งออกมาห่างถนนทำให้เงียบสงบห่างไกลจากผู้คน มีเพียงควายไบซันยืนกินหญ้าอยู่ห่างๆ สายน้ำใสพื้นเป็นหินกรวด มีสาหร่ายปกคุลมเป็นช่วงๆ แม่น้ำนี้ไหลคดโดค้งไปกลางทุ่งหญ้าที่มองไปสุดสายตาโดยไม่เห็นมนุษย์และสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเลย ที่สำคัญปลากินดีมาก และมีปลาขึ้นกินแมลงที่ hatch บนผิวน้ำเป็นระยะๆตลอดทั้งวัน

เทคนิคใหม่ที่ผมได้รับคำแนะนำมาจากร้าน Park Flyshop และได้ผลดีมากที่ Firehole river ก็คือการใช้ Wet fly
ขณะที่ Nymph เป็นตัวอ่อนของแมลงที่ลอยตัวอยู่ลึกใกล้หน้าดิน และ Dry Fly แทนแมลงที่เพิ่งเปลี่ยนสภาพจากตัวอ่อนและกำลังจะบินขึ้นจากผิวน้ำหรือที่เรียกกันว่า hatch Wet fly คือตัวที่อยู่ตรงกลางคือแมลงตัวอ่อนที่กำลังว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อจะ hatch ถ้าปลาเห็นเจ้าตัวนี้เข้าจะกลัวกินไม่ทัน รี่เข้ามากินโดยไม่ลังเลเลยครับ


ที่ Firehole นี่ผมจะตกด้วย Wet Fly เกือบตลอดเวลา จนกระทั่งเห็นปลาขึ้นมากินแมลงที่ผิวน้ำจึงจะเปลี่ยนมาเป็น Dry Fly


Madison River ในตำนาน
แม่น้ำชื่อดังอีกสายหนึ่งของ Montana ตะวันตก ก็คือแม่น้ำ Madison ที่กำเนิดในอุทยาน Yellowstone จากการรวมกันของแม่น้ำ Firehole และ Gibbon ไหลออกไปทางตะวันตกและวกขึ้นเหนือ


ตลอดความยาวเกือบ 300 กิโลเมตรทั้งในและนอกอุทยาน Madison River เป็นแม่น้ำที่อุดมไปด้วยปลาเทร้าท์ และแม่น้ำในช่วงที่อยู่ในอุทยานก็มีชื่อเสียงมากในเรื่อง Brown Trout ขนาดใหญ่ ที่อาศัยอยู่ในอ่างเก็บน้ำ Hebgen Lake และจะว่ายทวนน้ำขึ้นมาผสมพันธุ์วางไข่ก่อนจะถึงฤดูหนาว
เราแวะตกปลาจุดแรกที่ Barns Hole ซึ่งอยู่ใกล้ทางเข้า West Yellowstone มาก
การตกปลาที่ Barns Hole นี้มีประเพณีปฏิบัติที่น่าสนใจมาก คงจะเป็นเพราะมันเป็นจุดตกปลายอดนิยม เราเองก็ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน โชคดีที่เจอสหายใหม่นักตกปลาจาก Utha ที่อัธยาศัยดีมากเข้ามาคุยและอธิบายประเพณีที่ไม่มีเขียนไว้ให้ฟัง


ที่ Barns Hole นี้มีตุดตกปลาอยู่ 3 ช่วงแต่ละช่วงยาวประมาณ 100 เมตร นักตกปลาจะต้องไปเข้าคิว มีโต๊ะให้นั่งกินกาแฟรอ เมื่อคนข้างหน้าขับเดินลงไปสัก 10 เมตรแล้วถึงจะลงไปตกได้จากนั้นก็ขยับตามๆกันไป

จากแม่น้ำที่กว้างขึ้นและเปลี่ยนเหยื่อเป็น Stramer ขนาดใหญ่สลับกับ Wetfly ผมจึงเปลี่ยนมาใช้คัน Trout Spey ซึ่งเป็นคัน 2 มือ ขนาดเล็กเบอร์ 3


เราตกปลาที่นี่ทั้ง 3 ช่วง แต่ก็ไม่ได้ปลาอะไรนอกจากผมได้ Mountain White Fish 1 ตัว แต่ก็ดีใจเพราะนอกจากจะเป็นปลาที่ผมไม่เคยตกได้มาก่อนแล้วก็ยังเป็นปลาท้องถิ่นดั้งเดิมของที่นี่อีกด้วย

ดูเหมือนนักตกปลาคนอื่นๆก็ไม่มีใครได้ปลากันมากนัก อาจจะเป็นเพราะอากาศและน้ำที่เย็นเกินไปหรือเราอาจจะมาไม่ตรงช่วงเวลาการผสมพันธุ์วางไข่ของ Brown trout

เราฉลองวันตกปลาที่เหน็ดเหนื่อยกันด้วย Bison Tomahawk Steak และไวน์

Lamar Valley และ Yellowstone Cutthroat Trout
พื้นที่ใน Yellowstone ที่เราหมายมั่นปั้นมือจะไปตกปลากันมากก็คือหุบเขาทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือที่ชื่อว่า Lamar Valley เพราะนอกจากจะเป็นหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่าและคงสภาพธรรมชาติไว้มากที่สุดของ Yellowstone แล้ว ที่นั่นยังมีลำน้ำสาขาของแม่น้ำ Yellowstone ที่มีปลา Yellowstone Cutthroat Trout อยู่อย่างชุกชุมอีกด้วย

นอกจาก Lamar River ที่ไหลขนานกับถนนเมื่อเราไปถึง Lamar Valley แล้ว ยังมีลำน้ำสาขาที่น่าสนใจอีกสองสายคือ Slough Creek และ Soda Butte Creek และเราก็ตัดสินใจไปเสี่ยงดวงกันที่ Slough Creek ก่อน
พอขับรถเข้าป่ามาจนถึง trail head หรือจุดเริ่มต้นเดิน เราก็งงๆกันว่าจะไปทางไหนดีและต้องเตรียมอะไรเข้าไปบ้าง โชคดีที่เจอนักตกปลาอีกคนจอดรถอยู่ที่นั่น
Larry มาจาก Oregon เขาลากเทรเล่อร์มาจอดที่ Yellowstone แล้วตะเวนตกปลานานนับดือน Larry อัธยาศัยดีมาก พอถามเรื่องเส้นทางนิดเดียวก็อธิบายแหล่งตกปลาบริเวณนี้ให้เราฟังหมด พอรู้ว่าเราไม่มีสเปรย์กันหมีก็เดินไปหยิบจากรถมาให้ ขอดูว่าเรามีเหยื่อฟลายอะไรมาบ้างเสร็จแล้วก็เดินไปหยิบเหยื่อมาให้เราอีก

พอเราขอบคุณในน้ำใจ เขาก็บอกว่าเรา “Pay Forward” นะ นั่นก็หมายความว่าเมื่อวันนี้เราได้รับความช่วยเหลือแล้ว วันหลังเราก็ต้องช่วยเหลือคนอื่นต่อไปแบบเดียวกัน เป็นประเพณีที่น่ารักมากๆ
เราต้องเดินข้ามเขาไปประมาณ 3 กิโลเมตร ก่อนจะถึง Slough Creek จุดแรก เดินไปก็ต้องคอยระวังหมีไปด้วย
Slough Creek เป็นสายน้ำที่กว้างพอควร น้ำใสมากจนเกือบนิ่งในบางช่วงจนเรามองเห็นปลาขนาดใหญ่ๆหลายตัวอยู่ที่ก้นแม่น้ำแต่ดูเหมือนปลาเหล่านี้จะไม่สนใจเหยื่อชนิดต่างๆที่เราส่งลงไปให้เลย


เราเดินลัดเลาะเลียบลำน้ำกันไปเรื่อยๆ หุบเขารอบๆ Slough Creek นั้นแทบจะไร้ร่องรอยของสิ่งใดๆที่มนุษย์สร้างขึ้น รอบตัวเรามีแต่ทุ่งหญ้า, สายน้ำ, ควายไบซันเป็นฝูงๆ และ แน่นอน ปลา Yellowstone Cutthroat

หลายครั้งที่ผมลงทุนคลานไปหมอบที่ริมตลิ่ง แล้วหย่อนเหยื่อลงไปอย่างแผ่วเบา นานๆครั้งก็จะมีเจ้าปลาใหญ่ขึ้นมาดูเหยื่อใกล้ๆอย่างใจเย็นแล้วก็ว่ายกลับลงไปอย่างช้าๆ
สหายที่ร้านฟลายเตือนเราไว้แล้วว่าอย่าเสียเวลามา Lamar Velley ในช่วงนี้เพราะอุณหภูมิของน้ำเย็นเกินไปมากจนทำให้ปลาหยุดล่าเหยื่อหาอาหารและเก็บตัวนิ่งอยู่ในน้ำลึก และมันก็เป็นอย่างนั้นจริง
ถึงกระนั้นผมก็ยังดีใจที่เรามาตกปลาที่ Lamar Velley เราเดินกันไปจนสุดทุ่งหญ้าต่อกับป่าทึบแล้วตัดสินใจเดินกลับเพราะคำเตือนที่ Park Ranger บอกเราไว้ก่อนหน้านี้ว่าต้องระวังหมีมากๆเพราะช่วงนี้หมี Grizzly จะพยายามเดินหาอาหารให้มากที่สุดก่อนจะเข้าจำศีลในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

ขากลับก็เดินตกปลากันมาตลอด เราสองคนไม่ได้ปลาเลย ที่ตื่นเต้นที่สุดก็มีเพียงปลาใหญ่ตัวหนึ่งว่ายตามเหยื่อแมลงเต่าทองของผมอย่างใกล้ชิดอยู่หลายเมตรแล้วก็ว่ายจากไป

ก่อนมืดเราตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปจอดรถเสี่ยงดวงกันอีกครั้งที่ Soda Butte Creek
ผมนั่งชมความงามของพระอาทิตย์ที่ใกล้จะลับขอบฟ้า แสงสีแดงส้มฉายไปบนท้องฟ้า สะท้อนลงมาอาบท้องทุ่งและสายน้ำ เกิดเป็นภาพงดงามของธรรมชาติพิศุทธิ์ที่เป็นเช่นนี้มานับพันนับร้อยปี
ขณะที่นั่งชมความงามของธรรมชาติอยู่อย่างสงบนิ่ง ผมก็สังเกตเห็นปลาขึ้นจิบที่ผิวน้ำข้างโขดหิน
นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายในทริปนี้ที่ผมจะได้ยลโฉม Yellowstone Cutthroat trout ผมค่อยๆคลานเข่าลงไปที่ริมน้ำและเหวี่ยงสายส่งเหยื่อลงไปที่ผิวน้ำอย่างระมัดระวังที่สุด

Yellowstone Cutthroat เป็นปลาเทร้าท์พื้นถิ่นชนิดเดียวในพื้นที่กว้างใหญ่ของ Yellowstone Park ก่อนที่จะมีการจัดตั้งอุทยาน
ด้วยความที่แม่น้ำเกือบครึ่งหนึ่งของ Yellowtone Park อยู่เหนือน้ำตกสูงจนปลาไม่สามารถจะว่ายทวนน้ำขึ้นมาอยู่ได้ เพื่อดึงดูดให้คนมาเที่ยวและมาตกปลา เจ้าหน้าที่อุทยานในยุคเริ่มต้นจึงเอาปลาเทร้าท์ชนิดอื่นมาเพาะพันธุ์และปล่อยลงในแม่น้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Rainbow จากฝั่งตะวันตก, Brook จากฝั่งตะวันออก หรือกระทั่ง Brown จากยุโรป โดยที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดความเสียหายอะไรขึ้น
หลายสิบปีต่อมาปลาต่างถิ่นเหล่านั้นแพร่พันธุ์ไปทั่ว Brook trout ที่หาอาหารเก่งแย่งอาหารรวมไปถึงกินตัวอ่อนของ Cutthroat, Rainbow ที่มีช่วงเวลาวางไข่ตรงกันผสมข้ามพันธุ์กับ Cutthroat ไม่นานนัก Yellowstone Cutthroat ก็ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว

แต่นั่นก็ยังไม่เลวร้ายเท่ากับที่ใครสักคนแอบปล่อย Lake Trout ลงใน Yellowstone lake ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่และขยายพันธุ์หลักของ Yellowstone Cutthroat ในช่วงปี 90
Lake Trout เป็นปลาผู้ล่าขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกนี้ทำให้ Yellowstone Cutthroat ที่อาศัยอยู่ใน Yellowstone Lake มานับพันนับหมื่นปีแทบจะสูญพันธุ์ จากจำนวนที่เคยเห็นว่ายขึ้นไปวางไข่นับล้านๆตัว เหลือเพียงหลักสิบ!


Yellowstone Cutthroat นั้นเป็นมากกว่าปลาสวยงามหายาก มันมีบทบาทสำคัญมากต่อระบบนิเวศน์ของ Yellowstone เพราะการที่มันเป็นปลาชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแล้วว่ายขึ้นไปวางไข่ที่ต้นน้ำต่างๆซึ่งเป็นการนำสารอาหารจากทะเลสาบกลับไปให้กับป่าและสัตว์ต่างๆ
เมื่อ Cutthroat ลดน้อยหายไป บีเวอร์ก็ลดน้อยลง ไม่มีบีเวอร์ก็ไม่สัตว์ที่จะสร้างเขื่อนกันทางน้ำ ภูมิประเทศก็เปลี่ยนแปลง Moose ก็ขาดแหล่งที่อยู่, หมี Grizzly ที่เคยจับ Cutthroat กินก็อดอยากจนต้องย้ายถิ่นออกไปมีเรื่องกับผู้คนที่อยู่รอบๆ Yellowstone ฯลฯ วุ่นวายไปหมด
ด้วยความพยายามเต็มที่ของ Yellowstone National Park ในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมาทำให้ Yellowstone Cutthroat ค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้นทีละน้อย

A River Run Through it
หิมะตกหนักมา 2 วัน อุณหภูมิลดลต่ำลงไปถึง -19C จนเราแทบจะออกไปไหนไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงการออกไปแช่น้ำเย็นๆตกปลา เราพยายามแล้วครับแต่เส้นทางเข้าอุทยานปิดหมดเพราะหิมะท่วมสูง


หลังจากตระเวนตกปลาในแม่น้ำสายหลักๆอย่าง Yellowstone, Gardinier, Gibbon, Firehole, Madison, Lamar, Slough Creek, Soda butte creek แล้ว เรายังมีแม่น้ำอีกหนึ่งสายที่ต้องไปเยี่ยมเยือน
Gallatin River เป็นแม่น้ำที่มีต้นกำเนิดอยู่ใน Yellowstone National Park ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือและไหลขึ้นเหนือไปผ่านเมือง Bozeman, Montana
นอกจากจะเป็นแม่น้ำสายงามที่เต็มไปด้วยปลาดีๆแล้ว Gallatin River ยังโด่งดังเพราะมันเป็นแม่น้ำที่ใช้ถ่ายทำฉากสำคัญๆของภาพยนต์ในดวงใจของนักตกปลา Fly Fishing ทั่วโลก A River Runs Through It อีกด้วย

เราลุยหิมะลงไปตกปลาที่ริมแม่น้ำ Gallatin ในส่วนที่กำลังจะไหลออกนอกอุทยาน แม่น้ำช่วงนี้สวยมาก ไหลคดโค้งมาระหว่างทุ่งหญ้าสีทองที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน โอบขนาบ 2 ข้างด้วยเทือกเขา ดูจากทำเลโค้งน้ำแล้วน่าจะมีปลาอยู่มากๆ แต่อากาศหนาวเย็น -7C คงจะหนาวเกินไปที่ปลาจะกินเหยื่อ

ผมไม่ได้มุ่งหวังอะไร เพราะ 7 วันที่ผ่านมานี้เราได้ตกปลากันอย่างอิ่มเอม ปลาที่เราตกได้แม้จะไม่ใหญ่โต แต่ก็ครบทุกสายพันธุ์ ตั้งแต่ Rainbow Trout, Brown Trout, Brook Trout, Westslope Cutthroat, Mountain White Fish และ Yellowstone Cutthraot
ที่สำคัญไปกว่านั้น การตกปลา Fly Fishing ได้พาผมเข้าไปสู่ธรรมชาติงดงามในมุมที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนและใช้เวลาอยู่กับธรรมชาตินั้นอย่างเชื่องช้า เมื่อสิ้นวันแทบทุกค่ำคืนก็มีความสุขกับเบียร์เย็นๆอาหารอร่อยๆกับสหาย “นักตกปลา” ผู้ที่ต้องการเพียงออกมาตกปลาด้วยกัน
ตกปลาบ้าง ถ่ายรูปบ้าง ตกบ่ายหนาวจนแทบทนไม่ไหว ผมตั้งใจจะตีสายอีกสัก 2-3 ครั้งสุดท้าย แต่ดูเหมือน Fishing God ของ Yellowstone จะอยากเล่นตลกกับผม เพราะอยู่ดีๆในสายน้ำตรงหน้าก็มีปลาเทร้าท์ใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเห็นมาโฉบขึ้นมาบนผิวน้ำแล้วก็ดำหายไป ไม่ว่าผมจะพยายามส่งเหยื่ออะไรลงไปก็ไม่ปรากฎตัวให้เห็นอีกเลย
ครับ Fishing God of Yellowstone ไม่ต้องทำให้ผมคาใจหรอกครับ ผมจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอน เพราะที่นี่ Yellowstone คือ Trout Shangri-la ในใจผม

บันทึกจากการเดินทาง เดือนตุลาคม พ.ศ. 2562
ฟังในรูปแบบ Podcast ได้ที่นี่ครับ หรือจะที่ Apple Podcast, Spotify, Google ฯ ครับ
