Sunday, October 1, 2023
Homeชีวิตและการเดินทางเรื่องแปลกที่กลางป่าเรื่องแปลกที่กลางป่า ตอนที่ 1 เขาฟ้าผ่า

เรื่องแปลกที่กลางป่า ตอนที่ 1 เขาฟ้าผ่า

-

ผมเป็นคนที่มีความสุขมากเวลาที่ได้อยู่ในป่าครับ มีเวลาหลบไปได้เมื่อไหร่เป็นต้องหนีไปนอนในป่าไม่ว่าจะเป็นชายป่าหรือป่าลึกแค่ไหนถ้ามีโอกาสมีใครชวนผมไปหมด จากการที่เข้าป่ามาในช่วงเวลาหลายสิบปีนี้ มีหลายครั้งที่ได้พบเจอเรื่องแปลกๆที่ไม่สามารถอธิบายได้ เพื่อนๆหลายคนอยากจะให้ผมเขียนเล่าเรื่องมานาน มาวันนี้ลงมือซะที เร่ิมจากเรื่องแรกกันเลยครับ ขอบอกเลยครับว่า ทุกเรื่องที่จะเล่านี้เป็นเรื่องผมเองก็ไม่ได้ปักใจเชื่อยังสงสัยว่าคืออะไรที่เจอมาเองจริงๆครับ

ร่วมสิบปีมาแล้ว ตอนที่เพื่อนในกลุ่ม ThailandOutdoor เพิ่งจะรวมตัวกันได้ใหม่ๆ หลายคนอยากจะออกไปทดลองเดินป่า จึงมีการวางแผนว่าจะพาน้องใหม่หลายคนไปเดินป่ากันที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงนั้นบังเอิญว่าเจ้าหน้าที่เขาใหญ่ที่ผมรู้จักคุ้นเคยล้วนแต่ย้ายหน่วยหรือขาดการติดต่อหาตัวกันไม่เจอ (สมัยนั้นผู้คนยังไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือกันเหมือนทุกวันนี้นะครับ) จึงมี “ตุ๊ง” น้องในกลุ่มคนหนึ่งเป็นธุระให้โดยที่ไปติดต่อเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งที่เราไม่รู้จักมาก่อนมานำทางให้ โดยมีเป้าหมายกันอยู่ที่ “เขาฟ้าผ่า” ซึ่งเป็นยอดเขาอยู่ทางตะวันตก เราเดินทางไปกันในเดือนพฤศจิกายน 2549


เราออกเดินทางจากบริเวณใกล้ๆที่ทำการ คณะเรามีกัน 7 คน และมีเจ้าหน้าที่นำทางไป 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่หนุ่มๆทั้งหมด กว่าจะออกเดินทางกันได้สายมากแล้ว

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เราเดินผ่านหน่วยคลองอีเฒ่าแล้วก็ตัดเข้าป่าไปอีก

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

“พวกคุณเดินช้ากันอย่างนี้ ไม่มีทางเดินถึงเขาฟ้าผ่าหรอก” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดอย่างหงุดหงิด พูดก็พูดเถอะผมไม่ชอบกริยาและคำพูดของพวกเขานัก พวกเขาทั้ง 3 ดูจะค่อนข้าง “กร่าง” และ “คุย” มาก เมื่อเทียบกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆที่ผมคุ้นเคยซึ่งสุภาพและซ่อนคมกันทุกคน กับสามคนนี้ผมกลับรู้สึกว่าพวกเขาไม่ค่อยมีคมให้ซ่อนกันสักเท่าไหร่

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ด้วยเหตุที่เราออกเดินกันสาย และก็เดินกันช้าด้วย ทำให้เราเดินไม่ถึงจุดหมายคือยอดเขาฟ้าผ่าจริงๆ

“วันนี้นอนที่นี่แหละ ผมบอกแล้วว่าเดินแบบนี้ไม่ไม่มีทางเดินถึงเขาฟ้าผ่าหรอก” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกพลางปลดเป้ลงจากบ่า ตอนนั้นเป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าๆเท่านั้นเอง

ผมมองไปรอบตัว บริเวณนั้นเป็นจุดที่ลำห้วยสองสายมารวมกัน อย่างที่มีคำเรียกว่า “สามแพร่ง” ผมไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเท่าไหร่ แต่ที่ข้องใจมากก็คือพื้นดินบริเวณนั้นเต็มไปด้วยรอยเท้าสัตว์ตั้งแต่หมูป่า,กวาง ไปจนถึงช้างเปรอะไปหมดจนแทบทุกตารางนิ้วและยังมีทางด่านสัตว์เดินผ่านชัดเจน

พื้นที่ที่เราจะตั้งแค้มคือบริเวณสามเหลี่ยมในภาพ เป็นจุดบรรจบกันของลำห้วยสองสาย พื้นที่นี้เต็มไปด้วยรอยเท้าสัตว์ที่ลงมากินน้ำ
พื้นที่ที่เราจะตั้งแค้มคือบริเวณสามเหลี่ยมในภาพ เป็นจุดบรรจบกันของลำห้วยสองสาย พื้นที่นี้เต็มไปด้วยรอยเท้าสัตว์ที่ลงมากินน้ำ
ดูรอยสัตว์ตรงพื้นที่ที่จะตั้งแค้มป์นะครับ
ดูรอยสัตว์ตรงพื้นที่ที่จะตั้งแค้มป์นะครับ มันเป็นอย่างนี้ไปรอบด้านเลยครับ

“ผมว่าพื้นที่มันไม่น่าตั้งแค้มเลยนะ มันเป็นจุดที่สัตว์ลงมากินน้ำกัน นี่เพิ่งยังไม่สี่โมง เราเดินกันไปอีกหน่อยก็ได้นะครับ” ผมพูดกับเจ้าหน้าที่ทั้งสาม

“คุณกลัวเหรอ มากับพวกผมนี่ไม่ต้องกลัวหรอก สามแพร่งนี่ก็ไม่เป็นไร นอนที่นี่แหละ” คนหนึ่งพูดแบบไม่สนใจผมนัก

ผมจัดให้น้องๆในคณะผูกเปลใกล้ๆกัน โดยมีผมและพี่พิชญ์นักเดินป่ามือเก่าอีกคนผูกเปลกันอยู่ด้านนอก เจ้าหน้าที่ทั้งสามคนผูกเปลอยู่เรียงรายกันห่างเราออกไปเว้นพื้นที่ตรงกลางไว้เป็นที่ก่อกองไฟและนั่งกินข้าว

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

ผมสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งผูกเปลขวางด่านสัตว์(ทางเดินสัตว์) ไว้ ยังนึกในใจว่าหมอนี่ใจถึงแฮะ

ตอนค่ำเราล้อมวงกันกินข้าวใกล้ๆกองไฟ เจ้าหน้าที่ทั้งสามคนเอาหล้าออกมากินกัน โดยที่พวกเราไม่มีใครกินเหล้าเลย พอเหล้าเข้าปาก ดูเหมือนพวกเขาจะ “คุย” มากขึ้น

“ป่าแถวนี้พวกผมเดินตรวจกันบ่อยจนปรุแล้วไม่ต้องกลัวหรอก”

“นี่เราเดินมายังไม่ถึงครึ่งทางเลย พวกคุณเดินกันช้ามาก ผมบอกแล้วว่าเดินแบบนี้ไม่ถึงเขาฟ้าผ่าหรอก”

“สัตว์แถวนี้เยอะมาก แต่พวกคุณมาเดินป่าแต่งตัวกันเสื้อสีสดแบบนี้ ไม่มีทางได้เห็นสัตว์อะไรหรอก”

ฯลฯ

ผมอึดอัดกับการปฏิบัติตัวของพวกเขาพอสมควร คนอื่นๆในคณะก็คงรู้สึกเหมือนกัน จึงไม่ค่อยมีใครพูดคุยอะไรมากนัก เราไปนอนกันตั้งแต่หัวค่ำ


“อ๊ากกกกก อ๊ากกกกก อ๊ากกกกก” เสียงร้องดังลั่นขึ้นกลางแค้มป์ ผมยังจำเสียงร้องนั้นได้จนถึงทุกวันนี้แต่มันยากมากที่จะเขียนบรรยายเสียงนั้นออกมาเป็นตัวหนังสือ

ผมกับพี่พิชญ์กระโดดลงจากเปลพร้อมไฟฉายในมือ เมื่อเราส่องแสงไฟฉายไปที่ต้นตอของเสียงเราก็พบใบหน้าซีดเผือดและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวของเจ้าหน้าที่คนที่ผูกเปลขวางทางด่านอยู่ ผมเห็นหน้าเขาตอนนั้นแล้วเข้าใจได้เป็นครั้งแรกว่าคนที่ผมตั้งชี้ไปทั้งหัวเป็นอย่างไร

“เกิดอะไรขึ้นครับ” พี่พิชญ์ปรี่เข้าไปถาม

เจ้าหน้าที่คนนั้นอึกอักหันซ้ายหันขวาล่อกแล่ก พูดไม่ค่อยจะเป็นภาษาที่ใครจะเข้าใจได้

“เฮ่ย เอาไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยคุยกัน มา มึงย้ายมานอนใต้เปลกูนี่” เจ้าหน้าที่อีกคนบอกเพื่อน

แค่นี้ผมก็พอจะเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงไม่ถามอะไรต่อและให้ทุกคนแยกย้ายกลับไปนอน ผมดูนาฬิกา ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีหนึ่ง

ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่คนที่นอนขวางทางด่านแล้วร้องขึ้นมากลางดึกจึงเล่าเหตุการณ์ให้เราฟัง

“ผมนอนอยู่ในเปล ตื่นขึ้นมากลางดึก พอลืมตาก็เห็นตาแก่ผมยาวผมขาวไปทั้งหัวกำลังชะโงกหน้าลงมามองผมอยู่ในเปล ผมช็อคพยายามจะร้องก็ร้องไม่ออกอยู่พักหนึ่งแกก็มองอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งส่งเสียงได้และคนอื่นตื่นขึ้นมานั่นและครับ”

ตอนสายๆเราเก็บแค้มป์เดินทางกลับออกมายังที่ทำการ ตอนเช้านี้รู้สึกว่าความ “กร่าง” ของเจ้าหน้าที่ทั้งสามจะหายไปจนหมดสิ้น พวกเขาพาเราเดินกลับออกมาเงียบๆ

จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่มั่นใจนัก ว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆหรือมันอาจจะเป็นความฝันที่เจ้าหน้าที่คนนั้นนึกไปเอง แต่ที่แน่ๆผมไม่เคยคิดที่จะผูกเปลขวางทางด่านสัตว์เลย เพราะนั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำด้วยเหตุผลทั้งที่เราเข้าใจได้และไม่สามารถเข้าใจครับ

rec300

ตาเกิ้น
ตาเกิ้นhttp://takern.wordpress.com
นักสำรวจ, นักเขียน และนักเล่าเรื่อง

2 COMMENTS

  1. ขอบคุณครับพี่ เล่าเรื่องได้น่าติดตามมากครับ ตะรอตอนต่อๆ ไปครับ

  2. น่าติดตาม มีแง่คิด สิ่งที่ควรทำ สนุกมากครับ
    รอฟังเรื่องต่อไปครับ

Leave a Reply

LATEST POSTS

นิยมไพรสมาคม และจุดเริ่มต้นของการอนุรักษ์ในประเทศไทย

เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้หนังสือรายเดือนของ “นิยมไพรสมาคม” มาจากมิตรสหายหลายเล่มและกำลังทะยอยอ่านอย่างบรรจง (เพราะหนังสือเหล่านี้มีอายุ 65 ปี แทบจะกรอบเป็นผงอยู่แล้ว)   ผมอ่านแล้วตื่นตะลึงมากครับ ผมเคยได้ยินได้อ่านเรื่องราวของคุณหมอบุญส่ง เลขะกุลมาบ้างว่าท่านสร้างสรรค์ส่งดีๆไว้มากมาย แต่ไม่เคยรับรู้เรื่องนิยมไพรสมาคมมากนัก  และดูเหมือนว่าเรื่องราวของสมาคมนี้ได้เลือนหายไปจากความรับรู้ของสังคมไทยแล้ว  เลยขอมาเล่าเรื่องหลายอย่างสู่กันฟังถึงประวัติศาสตร์สำคัญของการอนุรักษ์ในบ้านเราที่กำลังจะลืมเลือนไป ในยุคก่อนปี พ.ศ. 2500 ประเทศไทยยังไม่รู้จักกับคำว่า “อนุรักษ์” ใดๆเลย (ในหนังสือก็ยังไม่มีคำนี้) ตอนนั้นใครอยากจับจองที่ตรงไหนก็ไปแจ้งที่อำเภอแล้วก็ลงมือถาง สัตว์ป่าทุกชนิด (ยกเว้นช้าง) ไม่มีกฎหมายอะไรคุ้มครอง ใครอยากล่าอะไรด้วยวิธีไหน...

Editor ใช้ Award เดินป่า โดยตาเกิ้น

พวกเราที่ ThailandOutdoor มีความโชคดีที่เราได้มีโอกาสทดสอบทดลองอุปกรณ์กลางแจ้งมากมาย และก็จะมีของบางอย่างที่เราทดสอบแล้วชอบจนซื้อไว้ใช้เอง เราเรียกของเหล่านั้นว่า "Editor ใช้ Award"  และนี่คือ "Editor ใช้ Award" ปี 2022 จากตาเกิ้นครับ VDO ยาวนะครับเพราะอธิบายกันทุกอย่างรวมถึงเหตุผลที่เลือกใข้ในสถานการณ์ต่างๆกัน เราแบ่งเป็นช่วงๆให้เลือกดูกันได้ครับ ตามนี้เลย บางคนอาจจะบอกว่าผมใช้แต่ของแพงๆหรูๆ ก็อาจจะจริง หรือไม่ แล้วแต่มุมมองครับ ทุกอย่างในชีวิตเราล้วนแล้วแต่ขึ้นกับว่าเราให้ลำดับความสำคัญกับอะไร  สำหรับผมแล้ว ผมไม่ได้ซื้อของอื่นหรูหราอะไร แต่การออกมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ การเดินป่า คือความสุขในชีวิตผม ผมจึงเลือกใข้แต่ของดีๆ...

ไปเรียนหลักสูตรปืนพกต่อสู้กับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ

ผมเขียนบทความนี้ไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.2552 เขียนข้างหลังกระดาษสำเนา ป.4 (ทะเบียนปืน) ในช่องยิงทันทีที่เรียนเสร็จ เขียนด้วยความประทับใจของการสอนยิงปืนในคอร์สนี้ ถึงวันนี้แม้ว่าหลายๆอย่างจะเปลี่ยนไป แต่ผมยังคงข้อความทุกอย่างที่เขียนในบทความนี้ไว้อย่างเดิมรวมทั้งรูปภาพเดิมที่อาจจะไม่ชัดนัก ด้วยความตั้งใจปัจจุบันโรงเรียนสอนยิงปืนแห่งนี้เปลี่ยนชื่อเป็น ชมรมยิงปืนเขาสามยอด ยังตั้งอยู่ที่สถานที่เดิมในค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี สอนมาต่อเนื่องถึง 14 ปีแล้วถ้านับถึงวันนี้ หลักสูตรพัฒนาไปมาก และมีถึง 8 หลักสูตรให้เรียนได้ตามลำดับขั้น และยังสอนโดยหัวหน้าชุดครูท่านเดิมที่มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะให้คนไทยได้เรียนรู้การใช้อาวุธปืนได้อย่างถูกต้องผมเชื่อว่าที่นี่คือโรงเรียนสอนยิงปืนที่ดีที่สุดที่เราจะสามารถเรียนได้ในประเทศไทย ผมเขียนอธิบายเพิ่มเติมไว้ที่ตอนท้ายของบทความนี้ครับ ในสังคมที่บิดเบี้ยวมากขึ้นทุกวัน ดูเหมือนพวกเราสุจริตชนจะต้องเสี่ยงกับภัยคุกคามรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นโจร...

ชีวิตผ่านไปเร็วมากและงดงาม Next Thing You Know

ผมชอบฟังเพลง Country American ครับ เพราะหลายๆเพลงมีเนื้อเพลงที่ดีมาก สามารถเล่าเรื่องราวได้ในเพลงเดียว คำพูดที่เลือกมาใช้ในเนื้อเพลงก็บรรจงคัดสรรมา บางครั้งถ้าตั้งใจฟังเพลงสักเพลงหนึ่งก็ราวกับได้อ่านหนังสือดีๆกินใจสักบท เอาเพลงนี้มาฝากกันครับ Next Thing You Know โดย Jordan Davis ตั้งใจจะเก็บเพลงนี้ไว้สำหรับวันครบรอบแต่งงานปีหน้า แต่ว่าเปลื่ยนใจ เอามาเขียนฉลองวันเกิดภรรยาผมเมื่อวานนี้ก็แล้วกันครับ Next Thing You Know เล่าเรื่องราวเหตุการสำคัญในชีวิตคู่ของใครสักคน อย่างชนิดที่ใครฟังก็คงได้ภาพของตัวเองและคนรักลอยขึ้นมาในใจ และก็คงคิดเหมือนกันว่า ทุกอย่างที่สวยงามในชีวิตนี้ช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ขณะที่ลูกชายผมอาจจะกำลังอยู่ในเนื้อเพลงท่อนแรก...

Most Popular

%d bloggers like this: