ผมมองจานอาหารตรงหน้า ปูม้านึ่งนั้นตัวเล็กๆโตกว่าฝ่ามือผมไม่มาก หอยนางรมสดก็ตัวเท่านิ้วโป้ง
แต่นั่นก็กลายเป็นปูม้าและหอยนางรมที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยลิ้มรสมา

“ปูม้าอร่อยๆไม่จำเป็นต้องตัวใหญ่นะครับพี่” เบิร์ดบอก เมื่อผมเอ่ยปากว่าปูอร่อยมาก เขาคงรอดูอาการของผมอยู่แล้วตั้งแต่เขาเอาปูตัวไม่ใหญ่นี้มาเสริฟให้ “คนกรุงเทพ”
เรานั่งกินอาหารเย็นกันอยู่ที่ร้าน “เจ๊ณี” ร้านอาหารเล็กที่บ้านคลองวาฬ หมู่บ้านเล็กๆในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดที่ใครๆก็ขับรถผ่านไปเที่ยวที่อื่น
“ปูร้านผมนี่ ผมจะไปเลือกซื้อเองตอนที่เรือเข้า ปูนี่มีวิธีกดดูนะว่าเนื้อแน่นมั๊ย และผมจะเลือกซื้อเฉพาะจากเรือเล็กของชาวบ้าน เรือเล็กนี่เขาจะออกคืนเดียว ของที่ได้จะสดมากไม่ได้แช่แข็งมา เรือใหญ่ๆที่เข้าที่สะพานปลานี่เขาออกกันทีเป็นสิบวัน นอกจากแช่แข็งมาแล้วเราก็ไม่รู้ว่าเขาทำอย่างไรกับมันอีกเพื่อให้ดูสด”
เมื่อผมมองข้ามถนนไปเห็นเรือประมงลำเล็กๆของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมหาดห่างจากร้านไปไม่กี่ร้อยเมตร ก็ดูเหมือนว่าเรื่องที่เบิร์ดเล่าจะมีมีเหตุผลมากๆ

“ที่ร้านนี่เราซื้อของมาทำวันต่อวันเลยครับ ไม่มีการแช่ฟรีซ ลูกๆหลานๆผมก็กินอาหารเหล่านี้ด้วย เราต้องเลือกที่ดีๆ สะอาดๆมาแน่นอนครับ” เบิร์ดพูดด้วยความภาคภูมิใจ

ผมไม่แน่ใจว่าคุณเคยสังเกตหรือไม่ ข้าวสวยเป็นเครื่องบ่งชี้อีกอย่างว่าร้านอาหารนั้นใส่ใจกับคุณภาพเพียงใด เมื่อผมเอ่ยปากว่าข้าวสวยอร่อยมาก พี่ณีแม่ครัวถึงกับเดินออกมาเล่าเองว่า ข้าวนี้ก็ต้องเลือกข้าวหอมอย่างดีมาทำ เลือกอยู่นานกว่าจะได้ข้าวที่ถูกใจ

พูดก็พูดเถอะ ข้าวสวยที่ผมกินวันนั้นอร่อยกว่าข้าวของร้านอาหารแพงๆในกรุงเทพเสียอีก
ก่อนกลับเบิร์ดบอกผมว่า “วันนี้พี่ชิมรสอาหารธรรมชาติๆแล้ว วันหลังมาชิมอาหารที่ปรุงด้วยฝีมือแม่บ้างนะ” และผมก็ไม่พลาดที่จะได้ไปชิมแกงส้มปลาโฉมงามและฉู่ฉี่ปลาทูในวันถัดมา

เมื่อไม่นานมานี้ มีเพื่อนคนหนึ่งพาผมไปกินอาหารที่ร้านเล็กๆในเมืองโกเตนเบิร์ก สวีเดน ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่พิเศษของที่นั่น เพราะเมนูจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ organic ที่ทางร้านจะหาซื้อมาได้จากในท้องถิ่นนั้นเท่านั้น แล้วมาปรุงด้วยเมนูที่เชฟจะสร้างสรรค์ขึ้นมาในแต่ละวัน
เขาให้ความสำคัญมากว่าวัตถุดิบทั้งหมดจะต้องมาจากท้องถิ่นในระยะไม่กี่สิบกิโลเมตรจากร้าน ทั้งเหตุผลในเรื่องการลดผลกระทบต่อโลกจากการใช้พลังงานขนส่งอาหาร, การอุดหนุนสนับสนุนชุมชน และที่สำคัญที่สุดคือความภูมิใจในสิ่งที่ท้องถิ่นเขามี


ในอีกซีกหนึ่งของโลก สหายชาวญี่ปุ่นของผมเคยเล่าให้ฟังว่า คนญี่ปุ่นนั้นเวลาเข้าร้านอาหารท้องถิ่น เขาจะสนใจที่มาของวัตถุดิบอาหารมาก และจะพูดคุยสอบถามพ่อครัวแม่ครัวถึงที่มาและเรื่องราวของอาหารเช่นปลา, เนื้อ และพืชผักต่างๆ
แต่คนไทยเราเสียอีกที่พยายามเรียกตัวเองว่าเป็นครัวโลก เรากลับเผลอตัวลืมความสำคัญเรื่องนี้ อาจจะเป็นเพราะเราล้วนถูกชักจูงไปด้วยการตลาดของผู้ผลิตและผู้ค้าอาหารให้เราให้คุณค่ากับหมูพันธุ์ต่างประเทศที่เลี้ยงในฟาร์ม, ปลาเอเลี่ยนที่เลี้ยงในกระชังจนแม่น้ำเน่าเสีย หรือแม้กระทั่งตื่นเต้นกับปูยักษ์จากขั้วโลกและปลาแซลม่อนที่เลี้ยงในฟาร์มจากอีกซีกโลกและต้องบินตรงข้ามคืนมาเพื่อให้ “สด” แล้วก็กิน “บุฟเฟ่ต์” กันแบบกลัวไม่คุ้ม เน้นปริมาณกันมากกว่าคุณภาพ

เมื่อผมสั่งแกงป่าปลาทราย และปลาอังเกย(ปลาธรรมชาติในตระกูลปลากระพง) นึ่งซีอิ้ว พ่อครัวของร้านเม-ดู-ลอง ริมหาดคลองวาฬก็เดินออกจากครัวมาคุยด้วย

“ปลาทรายของผมหมดครับ ช่วงนี้ฝนตกชาวบ้านเขาตกปลาไม่ค่อยได้ ปลาอังเกยที่ผมมีมันตัวใหญ่ไปหน่อยสำหรับ 2 คนครับ
เอาอย่างนี้มั๊ยครับ แกงป่าผมเอาปลาช่อนทะเลทำให้ ปลาเนื้อดี อร่อยมาก พี่เคยกินมั๊ยครับ”
พอผมบอกว่าผมเคยตกปลาช่อนทะเลได้และเอามากินแบบซาเซมิเนื้ออร่อยมาก ความสัมพันธ์ของผมกับพี่น็อตพ่อครัวก็ดูเหมือนจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้น
“ปลานึ่ง ผมมีปลาเก๋าขนาดกำลังดีเลย เดี๋ยวทำให้ทาน รับรองว่าอร่อยครับ”
ผมขยับจะถามว่าปลาเก๋านั้นเป็นเก๋าเลี้ยงหรือปลาธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากเพราะในใจเชื่อว่าคุยกันขนาดนี้แล้ว เขาคงไม่เอาปลาเก๋าเลี้ยงมาให้ผมกินแน่
และก็เป็นเช่นนั้นครับ ปลาเก๋าตัวนั้นไม่ใหญ่มาก ขนาดแค่ 6-7 ขีด แต่เนื้อแน่นและหวานด้วยตัวมันเอง ส่วนแกงป่าปลาช่อนทะเลก็รสจัดจ้านด้วยเครื่องแกงท้องถิ่นผนวกเข้ากับเนื้อปลาช่อนทะเลแสนอร่อย
“พี่นี่รู้จักปลาเข้าใจกินนะ ปรกติร้านผมมีแต่ปลาท้องถิ่นที่ผมหาได้จากชาวประมงพื้นบ้านแถวนี้นะครับ แต่ตอนหลังนี้ต้องมีปลากระพงติดไว้บ้าง เพราะคนกรุงเทพมาจะกินแต่ปลากระพง แนะนำปลาดีๆให้ไม่ยอมกินกันเลย” พี่น็อตออกจากครัวแวะมาคุยอีกครั้งเมื่อเรากินอิ่มแล้วนิ่งชมบรรยากาศริมทำเลกันอยู่
(ปลากระพงเกือบ 100% เป็นปลาที่เลี้ยงในกระชังหรือบ่อดินด้วยอาหารปลา)

ร้านอาหารเล็กๆ 2 ร้านที่บ้านคลองวาฬนี้อาจจะเป็นตัวแทนของร้านอาหารท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยอาหารธรรมชาติคุณภาพดีที่เราขับรถผ่านแบบไม่มองเพราะไม่ได้อยู่ใน list “10 อันดับร้านต้องชิม”
แต่ถ้าคุณไม่เคยเสาะหาและนั่งกินของอร่อยในร้านเช่นนี้ คุณพลาดแล้วครับที่เกิดมาเป็นคนไทย
เราอาจจะมีรัฐบาลห่วยๆมาตลอด, มีนักการเมืองเลวๆไม่เคยเปลี่ยน และมีระบบจัดการของรัฐที่แย่จนแทบพึ่งพาไม่ได้ในหลายๆเรื่อง
แต่เราก็มีอาหารท้องถิ่นที่ดีไม่แพ้ที่ไหนในโลก

ครั้งหน้าถ้าได้เดินทางออกไปต่างเมือง ลองเดินผ่านเลยร้านชิคๆยอดนิยม ออกไปแถวตลาด แล้วถามชาวบ้านแถวนั้นดูว่าร้านไหนอร่อย ไปถึงร้านแล้วถ้าคุณคุยกับพ่อครัวแม่ครับ, เปิดใจสั่งของที่เราไม่คุ้นเคย แล้วคุณก็จะได้โอกาสที่จะละเมียดชื่นชมธรรมชาติของท้องถิ่นทีละคำ
เมื่อคุณได้ลิ้มรส, เข้าใจและหลงไหลอาหารจากธรรมชาติแล้ว คุณก็อาจจะกลายเป็นคนหนึ่งที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ธรรมชาติคงอยู่อย่างยั่งยืน เพื่อเราจะได้มีของดีๆอร่อยๆกินอย่างภาคภูมิใจ
และคุณก็อาจจะรู้สึกดีใจว่าเกิดมาเป็นคนไทยครับ
[…] อ้างจากแหล่งที่มา: … […]