แม่น้ำเงาไหลมาจากต้นกำเนิดบนเขาไกลโพ้นเป็นระยะทางกว่าร้อยกิโลเมตร ผ่านหุบเขาที่งดงามและชุมชนกระเหรี่ยงที่อยู่ร่วมกับแม่น้ำสายนี้มาเนิ่นนาน แม่เงาเป็นแม่น้ำไม่กี่สายในประเทศนี้ที่ยังคงไหลอย่างอิสระปราศจากเขื่อนหรือฝายกัน
“ยังคง” เป็นคำที่ผมเลือกใช้อย่างลังเล
ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาเยี่ยมเยือนแม่น้ำสายนี้ที่เปรียบเสมือนเพื่อนเก่าที่คุ้นเคยกันมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้พายเรือแคนูใช้เวลาอย่างไม่รีบร้อนและตั้งแค้มป์กันบนชายหาดริมฝั่งน้ำที่เงียบสงบ
ครั้งนี้เรามีสมาชิกร่วมทีมถึง 29 คนที่เดินทางกันมาด้วยเรือถึง 16 ลำ เป็นเรื่องน่าแปลกและน่ายินดียิ่งนักที่เรามีมิตรสหายที่น่ารักล้วนๆถึง 28 คนอย่างนี้ได้อย่างไร ซึ่งก็ทำให้การเดินทางแคนูแค้มปิ้งครั้งนี้อบอวลไปด้วยความสนุกและความสุขตลอดเวลา 3 วัน 2 คืน
สหายหลายคนที่เพิ่งมากับเราเป็นครั้งแรกเอ่ยปากชมว่าแม่น้ำเงาสวยมาก น้ำใสมาก
ผมยิ้มกับคำชมนั้น แต่ก็ต้องบอกกับเขาด้วยความเศร้าที่ซ่อนอยู่ในใจว่า ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ แม่น้ำเงาใสกว่านี้มาก และถ้าย้อนไปถึงครั้งแรกที่ผมมาถึง แม่เงาไม่เคยขุ่นแดงแม้กลางฤดูฝน
เราพูดกันอยู่เสมอว่าสายน้ำคือต้นกำเนิดของชีวิต แต่ดูเหมือนว่าความสำคัญของแม่น้ำสายนี้จะถูกมองข้ามไป แลกกับการอยู่รอดในสังคมที่เปลี่ยนแปลงหรือแม้แต่ความสะดวกสบาย
เราเห็นได้ตลอดการเดินทางว่าการทำถนนริมน้ำมีการไถดินให้ไหลลงสู่แม่น้ำ, ป่าที่เคยอยู่สองข้างหลายส่วนถูกถางเพื่อปลูกพืชไร่, ไม่นานมานี้เกิดดินถล่มทับหมู่บ้านทางต้นน้ำของลำห้วยย่อยสายหนึ่ง, ขยะจากชุมชนก็เพิ่มมากขึ้นโดยไม่มีการกำจัดและก็ไหลลงมาเมื่อน้ำหลาก คงไม่ต้องพูดถึงสารเคมีจากการเกษตรที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
ผมยังมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาเยี่ยมเยือนแม่น้ำสายนี้ที่เปรียบเสมือนเพื่อนเก่าที่คุ้นเคยกันมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้พายเรือแคนูใช้เวลาอย่างไม่รีบร้อนและตั้งแค้มป์กันบนชายหาดริมฝั่งน้ำที่เงียบสงบท่ามกลางมิตรสหาย
แต่มาถึงตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพยายามทำกันอยู่จะช่วยต่อชีวิตของแม่น้ำที่งดงามสายนี้ไว้ได้นานแค่ไหน