ผมเขียนบทความนี้ไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.2552 เขียนข้างหลังกระดาษสำเนา ป.4 (ทะเบียนปืน) ในช่องยิงทันทีที่เรียนเสร็จ เขียนด้วยความประทับใจของการสอนยิงปืนในคอร์สนี้ ถึงวันนี้แม้ว่าหลายๆอย่างจะเปลี่ยนไป แต่ผมยังคงข้อความทุกอย่างที่เขียนในบทความนี้ไว้อย่างเดิมรวมทั้งรูปภาพเดิมที่อาจจะไม่ชัดนัก ด้วยความตั้งใจ
ปัจจุบันโรงเรียนสอนยิงปืนแห่งนี้เปลี่ยนชื่อเป็น ชมรมยิงปืนเขาสามยอด ยังตั้งอยู่ที่สถานที่เดิมในค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี สอนมาต่อเนื่องถึง 14 ปีแล้วถ้านับถึงวันนี้ หลักสูตรพัฒนาไปมาก และมีถึง 8 หลักสูตรให้เรียนได้ตามลำดับขั้น และยังสอนโดยหัวหน้าชุดครูท่านเดิมที่มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะให้คนไทยได้เรียนรู้การใช้อาวุธปืนได้อย่างถูกต้อง
ผมเชื่อว่าที่นี่คือโรงเรียนสอนยิงปืนที่ดีที่สุดที่เราจะสามารถเรียนได้ในประเทศไทย ผมเขียนอธิบายเพิ่มเติมไว้ที่ตอนท้ายของบทความนี้ครับ
ในสังคมที่บิดเบี้ยวมากขึ้นทุกวัน ดูเหมือนพวกเราสุจริตชนจะต้องเสี่ยงกับภัยคุกคามรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นโจร ขโมยที่ชุกชุมขึ้นจากอาการสะดุดของเศรษฐกิจ, คนร้ายใจวิปริตหลากหลายรูปแบบ, การก่อการร้ายที่ไม่เคยจบสิ้น ไปจนถึงจลาจลที่อาจเกิดขึ้นใกล้ตัว ตัวคนเดียวไม่เท่าไหร่ คนที่มีครอบครัว ความกังวลก็ยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ
อำนาจบ้านเมืองย่อมเป็นที่พึ่งหลัก แต่ก็ใช่ว่าความคุ้มครองการช่วยเหลือจะมีทั่วถึงหรือทันเวลาเสมอไป หลายคนจึงต้องยึดหลักตนย่อมเป็นที่พึ่งแห่งตน การมีอาวุธปืนไว้เฝ้าบ้านป้องกันครอบครัวจึงเป็นทางเลือกของคนจำนวนไม่น้อย แต่เพียงมีปืนไว้ก็ปลอดภัยแล้วหรือ?
ปืนอาจะไม่เหมือนดาบ แต่ที่คล้ายกันคือมันล้วนมีสองคม คือนอกจากเป็นอาวุธป้องกันตัวแล้ว ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อเจ้าของได้ด้วยหากไม่คุ้นเคย
เกิน 80% ของคนที่มีปืนล้วนไม่เคยเอาปืนที่เขามีออกมายิงเกินหนึ่งครั้ง(ยิงตอนที่ซื้อมาใหม่ๆ) ส่วนนี้นับว่าปืนอาจเป็นของอันตรายกับเจ้าของและคนรอบข้างพอควรเลยทีเดียว เพราะความไม่คุ้นเคยกับกลไกของปืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ(ที่เรียกกันสั้นๆว่าปืนออโต)ที่มีกลไกซับซ้อนแต่เป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน อาจจะนำไปสู่อุบัติเหตุได้ง่าย
อีก ส่วนใหญ่ของ 20% ที่เหลือ แม้จะเคยเอาปืนมาซ้อมยิงเป้ากระดาษบ้างนานๆครั้ง บางคนอาจมั่นใจว่ายิงปืนได้แม่นยำ แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้ปืนในสถานนะการจริงล่ะ ส่วนใหญ่คงไม่เคยรู้ว่าต้องฝึกฝนอะไรบ้าง
ผมเองก็ตกอยู่ในกลุ่มหลังนี้ แม้จะยิงปืนได้ดีระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยมั่นใจว่าหากมีเหตุจำเป็น ผมจะหยิบปืนขึ้นมาใช้ได้แบบที่ยิงเป้ากระดาษ
ผมเสาะหาคอร์สสอนยิงปืนในเชิงป้องกันตัวอยู่นานแต่ไม่เคยพบคอร์สที่ถูกใจ จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันนี้เมื่อมีพี่ที่เคารพท่านหนึ่งให้ดูหลักสูตรฝึกยิงปืนพกป้องกันตัวของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ฉ.ก.90
หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ฉ.ก.90
ทำความเข้าใจกันสักนิดว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ฉ.ก.90 นั้น เป็นหน่วยพิเศษของกองทัพบกที่มีภารกิจหลักในการต่อต้านการก่อการร้ายสากล จากการฝึกที่เข้มข้นเพื่อให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามระดับก่อการร้ายข้ามชาติและประสบการณ์จากการทำงานจริง ทำให้หน่วยนี้มีความชำนาญให้การใช้อาวุธจนกลายเป็นหน่วยที่มีภารกิจเสริมในการที่จะสอนและฝึกการใช้อาวุธให้กับหน่วยงานของรัฐหน่วยอื่นเช่น หน่วยปราบปรามยาเสพติด, ตำรวจ และทหารในหน่วยอื่น มาตลอด
ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ทางหน่วย ฉ.ก.90 ได้นำเอาความรู้, ประสบการณ์การใช้อาวุธในสถานะการจริงและการประสบการณ์ในการสอนที่สะสมมานานปี มากลั่นกรองเป็นหลักสูตรปืนพกต่อสู้ที่เหมาะสมกับประชาชนทั่วไปจะใช้ป้องกันตัวในยามจำเป็น แล้วเปิดสอนให้กับประชาชนทั่วไป
หลักสูตรนี้ใช้เวลาฝึกกันเต็มๆ 2 วัน ลองมาดูกันครับ ว่าเราได้เรียนรู้อะไรกันบ้างจาก 2 วันนี้
ไปฝึกยิงปืน
เช้าวันเสาร์ ที่สนามยิงปืนฉ.ก.90 ลพบุรี
การฝึกเริ่มต้นจากการบรรยายสั้นๆเพื่อเน้นย้ำสิ่งที่สำคัญที่สุดสิ่งแรกของการใช้อาวุธปืนนั้นก็คือความปลอดภัย จากนั้นก็เป็นการปรับพื้นฐานในการยิงปืนไม่ว่าจะเป็นท่ายืน การจับปืน การเล็ง การลั่นไก ฯ แม้จะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ก็สอดแทรกไว้ด้วยเกร็ดความรู้เกี่ยวการยิงปืนแบบต่อสู้ แม้ผมจะเคยยิงปืนมาก่อนก็ยังได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากการบรรยายในห้วงสั้นๆนี้มากมายหลายอย่าง

จากนั้นก็ถึงเวลาออกแดดลงมือจริงกัน
ช่วงแรกเป็นการฝึกโดยที่ยังไม่ใช้กระสุนจริง เน้นย้ำกันมากๆในเรื่องของความปลอดภัย อย่างที่กล่าวละครับ ปืนออโต้ที่นิยมกันมากในยุคนี้นั้นเป็นปืนที่มีกลไกซับซ้อนต้องทำความเข้าใจให้ดีและฝึกฝนให้คล่องจึงจะใช้ได้คล่องแคล่วและปลอดภัย ฝึกซ้อมซ้ำไปมาจนคล่องและแน่ใจว่าทุกคนทำได้อย่างปลอดภัยแล้วจริงๆ

จากนั้นก็เป็นเรื่องของท่าทางและขั้นตอนการยิงพื้นฐานที่ได้ฟังบรรยายกันมา ท่ายิงที่ฝึกกันนี้เป็นท่ายิงที่อาจต่างไปจากท่ายิงที่เราพบเห็นกันในที่อื่นบ้างเพราะเป็นท่ายิงที่เน้นความเร็วเพื่อให้พร้อมที่จะป้องกันตัวจากภัยคุกคาม

“เราไม่ได้ฝึกเพื่อให้พี่ๆไปแข่งขันยิงปืนแม่นยำในสนามหรือจัดท่าให้เท่ห์เพื่อไปเล่นหนังนะครับ แต่เราอยากจะให้พี่ฝึกท่าทางการยิงที่คล่องตัวและแม่นยำพอที่จะนำไปใช้ป้องกันตัวได้จริงๆในเวลาที่จำเป็นต้องใช้” ครูเน้นยำอยู่เสมอของจุดมุ่งหมายของการฝึกฝน
ด้วยถ้อยคำสุภาพจากครูฝึกทุกคน “สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำพี่คืออย่างนี้ครับ ….” ที่เราได้ยินตลอดทั้งวัน เมื่อออกมาจากปากผู้ที่รู้จริงในวิถีที่เต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน สร้างให้เรามีความนับถือและทัศนคติที่ดีต่อสุภาพบุรุษจากกองทัพบกหน่วยนี้เป็นอย่างมาก
การฝึกฝนในวันแรกดำเนินต่อไปด้วยการแก้ไขข้อขัดข้องของปืนแบบต่างๆ, การเปลี่ยนซองกระสุน ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจและฝึกฝนให้คล่อง การทำความเข้าใจกับเงื่อนไขความพร้อมของอาวุธในแบบต่างๆที่จะใช้งานและการปฏิบัติเพื่อให้อาวุธปืนใช้งานได้ทันที ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการที่จะทำให้อาวุธของเราพร้อมใช้งานได้ในนาทีคับขันทั้งสิ้นโดยที่เรามักจะไม่เคยคำนึงถึงและไม่เคยฝึกฝนมาก่อน


หลังจากฝึกฝนกันจนคล่องแล้วเราก็จบวันโดยการยิงกระสุนจริงเพื่อทดสอบศูนย์, นำท่าทางการยิงที่ฝึกมาใช้งานจริง และสร้างความคุ้นเคย



เมื่อจบวันในยามเย็น พวกเราหลายคนถึงกับอ่อนระทวย แถมกลับไปด้วยรอยยิ้มของครูฝึกที่มากับคำพูดที่ว่า “พรุ่งนี้สนุกกว่านี้อีกมากครับพี่”
ฝึกฝนให้หล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น เราเริ่มวันกันด้วยการทบทวนสิ่งที่ฝึกฝนเมื่อวันวาน
“ผมอยากจะให้พี่ๆฝึกฝนจนปืนนั้นหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย เป็นอวัยวะส่วนที่ 33 เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว ในยามจำเป็นเราก็จะหยิบจับได้อย่างอัตโนมัติ”
เมื่อฝึกซ้ำๆเข้า หลายคนที่เคยติดขัด ดึงสไลด์ไม่ออก หยิบจับปืนไม่คล่องตัว เริ่มมีท่าทางทะมัดทะแมงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


เพื่อนๆบางคนถึงกับเอ่ยปาก “ผมซื้อปืนกระบอกนี้มาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ซื้อมายังดึงสไลด์รวมกันไม่เท่าสองวันนี้เลย”
หลังจากทบทวนเราก็ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆอีกหลายอย่างเช่น การหันเพื่อยิงเป้าหมายทางด้านข้างและด้านหลัง, การยิงหลังที่กำบัง, การยิงและเปลี่ยนซองกระสุน และการยิงหลายเป้าหมาย โดยที่แบ่งออกเป็นสี่ฐานให้เราหมุนเวียนกับไปฝึก


การหมุนเวียนไปฝึกที่แต่ละฐานนี้ทำให้เราได้พบกับครูฝึกทั่วถึงมากขึ้น เห็นได้ชัดเลยครับว่าครูในชุดนี้ทุกท่านมีความรู้ความสามารถในการใช้อาวุธอย่างลึกซึ้งมาก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจถ้าเราคิดย้อนไปว่าครูฝึกทุกท่าน คือเจ้าหน้าที่ในชุดปฏิบัติการ ที่ได้รับการฝึก และผ่านการปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว มิใช่เพียงคนที่อ่านทฤษฎีแล้วมาสอนเรา นอกจากนี้ยังประทับใจกับความสุภาพ, ความเอาใจใส่และความทุ่มเทของครูทุกคน ถึงขนาดถ้านักเรียนคนไหนทำอะไรไม่ได้ครูก็ไม่เลิกสอนแม้จะต้องแยกไปสอนกันเดี่ยวๆหรือจะต้องสอนเพิ่มให้ในเวลาพัก
การเรียนรู้ในช่วงนี้เปิดทัศนคติใหม่ๆในการใช้ปืนป้องกันตัวอีกไม่น้อย แม้จะดูหัวข้อที่ฝึกเป็นเรื่องธรรมดาแต่เทคนิคที่นำมาสอนนั้นเป็นเรื่องที่เรานึกไม่ถึง ตัวอย่างหนึ่งก็คือการใช้ที่กำบังที่เรามักจะทำกันเลียนแบบท่าที่เห็นในภาพยนต์ แต่เทคนิคที่ถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงของตัวเรากลับต่างไปมาก

ควบคุมให้ได้
“พี่ๆได้เรียนรู้การใช้อาวุธป้องกันตัวตามที่พวกผมแนะนำให้แล้ว แต่ข้อสำคัญที่สุดประการหนึ่งในการใช้อาวุธปืน คือการควบคุมให้ได้”
การควบคุมนั้น มิเพียงแต่ควบคุมอาวุธในมือ แต่หมายถึงการควบคุมอารมณ์และสติของผู้ใช้อาวุธด้วย และนั่นเราก็ได้เรียนรู้กันในขั้นตอนของการทดสอบ
ในช่วงสุดท้ายของการฝึกคือการทดสอบด้วยการนำทักษะที่ฝึกแล้วมาใช้ในสนามพร้อมการจับเวลา
การจับเวลาและความต้องการที่จะผ่านการทดสอบนับเป็นแรงกดดัน แต่มันน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับแรงกดดันจริงที่เราจะต้องเจอหากโชคร้ายไปเจอสถานการณ์จริง ถึงกระนั้นมันก็เพียงพอให้เราหลงลืมบางอย่าง สับสนกับสิ่งเล็กน้อยที่ฝึกมาจนคล่อง




ในช่วงการทดสอบ ผมเห็นความแตกต่างของเพื่อนอย่างชัดเจน บางคนที่เมื่อวานยังดึงสไลด์ไม่ออก (อย่างเช่นภรรยาผม ที่ดึงไม่ออกหลายๆครั้งเข้าก็น้ำตาคลอพาลจะเอาปืนคว้างหัวผมแล้วเลิกเรียนอยู่รอมร่อ) ในวันนี้สามารถวิ่งเข้าไปชักปืนจากซองกระชากสไลด์แล้วยิงเข้าเป้าหมาย 5 นัดซ้อนในเวลาเพียง 12 วินาทีได้ ฯลฯ

จุดเร่ิมต้นของสิ่งดีๆที่จะตามมา
ผมพบว่าหลักสูตรการยิงปืนพกต่อสู้ ฉ.ก.90นี้ เป็นหลักสูตรยิงปืนที่เหมาะมากสำหรับคนที่มีปืนไว้ปกป้องครอบครัว เนื้อหาและการฝึกสมบูรณ์ครอบคลุมเรื่องที่จำเป็นต้องรู้และเพียงพอสำหรับการใช้งาน
การเรียนรู้และการฝึกฝนทั้งสองวันนี้ สร้างความมั่นใจให้ผมพร้อมขึ้นมากหากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้อาวุธปกป้องครอบครัวในเวลาคับขัน
“พวกเราไม่ได้ทำเพื่อเชิงพาณิชย์ครับ เราเพียงแค่อยากจะให้คนไทยมีสนามฝึกยิงปืนดีๆอย่างที่ฝรั่งเขามี Blackwater เพื่อให้คนไทยได้ใช้ปืนได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย”
นั่นเป็นความมุ่งมั่นที่เรามิเพียงได้ยินจากปากแต่รู้สึกได้จากการปฏิบัติของครูฝึกทุกท่านในหน่วย ฉ.ก.90
ผมเชื่อเลยว่านี่คือจุดเริ่มต้นของสิ่งดีๆที่จะตามมาอีกมาก
ตาเกิ้น
มิถุนายน 2552
ผมเชื่อว่าที่นี่คือโรงเรียนสอนยิงปืนที่ดีที่สุดในประเทศไทย
หลังจากผ่านมา 14 ปี โรงเรียนสอนยิงปืนแห่งนี้พัฒนาไปไกลมากจากครั้งแรกที่ผมได้เข้าไปเรียน ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร,เทคนิคการสอน, กระบวนการฝึก, อุปกรณ์ช่วยฝึก ฯ แต่ยังคงมั่นคงในหลักการที่จะให้ความรู้ในขอบเขตของประชาชนที่จะใช้อาวุธปืนป้องกันตัวและทรัพย์สินอย่างไรให้ปลอดภัยและถูกต้อง หลักการสอนเป็นไปตามปรัชญาที่ว่า “เริ่มจากง่ายไปหายาก” และ “ผู้รู้ย่อมเห็นเอง” โดยใช้ชื่อใหม่ว่าชมรมกีฬายิงปืนเขาสามยอด
สิ่งที่ทำให้โรงเรียนแห่งนี้โดดเด่นมากก็คือการที่ชุดครูผู้ฝึกสอนล้วนแต่มีประสบการณ์จริงในการใช้อาวุธปืนประกอบเข้ากับการที่แสวงหาความรู้เทคนิคและเทคโนโลยี่ใหม่ๆของโลกการยิงปืนโดยตลอดไม่ยึดติดกับสิ่งเก่าๆเดิมๆ
“หัวหน้าชุดครู” คือคนที่พวกเรานักเรียนที่นี่ให้ความเคารพรักและศรัทธา เพราะ “ครู” ท่านนี้ทุ่มเทมากที่จะทำให้คนไทยได้มีโอกาสเรียนรู้การใช้อาวุธปืนที่ถูกต้อง “ครู”เป็นผู้วางหลักสูตร,ขั้นตอนและระบบการสอนไว้อย่างรอบคอบและรัดกุม, คอยพัฒนาหลักสูตรให้ดีขึ้นตลอดเวลา และยังทำหน้าที่สอนเองทุกครั้งตลอด 14 ปีที่ผ่านมา
บอกได้แค่ว่าถ้ามีโอกาส ไปเรียนเถอะครับ อย่าพลาด
รายละเอียดการฝึกยิงปืนหลักสูตรการยิงปืนพกต่อสู้ชมรมกีฬายิงปืนเขาสามยอด
ปัจจุบันทางชมรมมีหลักสูตรยิงปืนทั้งหมด 8 หลักสูตรคือ
- หลักสูตรการยิงปืนพกต่อสู้ขั้นต้น
- หลักสูตรการยิงปืนพกต่อสู้ขั้นกลาง
- หลักสูตรการยิงปืนพกต่อสู้ขั้นสูง
- หลักสูตรการยิงปืนพกต่อสู้ทบทวนขั้นสูง
- หลักสูตรการยิงปืนลูกซองต่อสู้ขั้นต้น
- หลักสูตรการยิงปืนลูกซองต่อสู้ขั้นสูง
- หลักสูตรการยิงปืน PCC
- หลักสูตรการยิงปืนสั้นกล้องจุดแดง
ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ทาง Facebook ชมรมกีฬายิงปืนเขาสามยอด https://www.facebook.com/profile.php?id=100063648667340