Saturday, December 9, 2023
HomeความคิดและมุมมองSUP ธรรมชาติในมุมมองที่แตกต่างของคนภูเขา

SUP ธรรมชาติในมุมมองที่แตกต่างของคนภูเขา

-

ผมเกิดมาในสายเลือดของคนภูเขา ตั้งแต่เล็กจนโตผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะถูกกับทะเลมากนัก ตอนที่ยังเป็นเด็กทุกครั้งที่ไปทะเล ผมจะมีอาการภูมิแพ้น้ำมูกไหลจนแทบจะทำอะไรไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงการลงเล่นน้ำทะเลกลางแดดร้อนๆที่ไม่เห็นจะสนุกตรงไหน ไม่เหมือนป่าบนเขาที่อากาศเย็นสบาย

เมื่อเที่ยวป่ามากๆเข้า ผมก็พบกว่าผมหลงรักแม่น้ำ และสายน้ำเล็กในป่าดง การเดินทางที่ผมชื่นชอบที่สุดก็คือการเดินทางล่องไปตามสายน้ำพร้อมกับเพียงข้าวของที่จำเป็นในเรือแคนูแล้วพักแรมท่ามกลางความงดงามของสายน้ำ ในมุมสงบที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย 

ในขณะเดียวกัน ผมก็เคยเห็นวิถีของคนเล่น Surf และชื่นชมการใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติโดยมีอุปกรณ์น้อยนิดเรียบง่ายของพวกเขามาก แต่หากมันเป็นวิถีที่แตกต่างและยากมากสำหรับคนภูเขาอย่างผมจะเข้าไปสัมผัสได้

ครั้งแรกที่ผมเห็น SUP (Stand Up Paddle) ผมรู้สึกดูแคลนมันว่าเป็นของเล่นคนเมือง (City Boy’s Toy) ที่เอาไว้พายเล่นๆ เท่ๆ วนไปวนมาอวดกันแล้วก็กลับมาคืนที่เดิมไม่ได้เดินทางไปไหน สาเหตุหนึ่งของการดูแคลนนั้นอาจจะมาจากการที่ผมเป็นคนที่การทรงตัวแย่มาก เมื่อลองขึ้นไปยืนบน SUP ที่แรกเห็นนั้นได้เพียงไม่กี่วินาทีก็ร่วงลงน้ำไป

เมื่อสองปีที่แล้วผมได้ลอง “เล่น” SUP อีกครั้งเพราะเรามาเที่ยวพักผ่อนกันที่บ้านเล็กๆที่ชายหาดคลองวาฬ และมุมมองของผมกับ SUP ก็เปลี่ยนไป

ผมพบว่าร่างการของมนุษย์นั้นมหัศจรรย์มาก หลังจากที่พยายามยืนบนบอร์ดแล้วพายจนตกน้ำเป็นสิบครั้ง ผมก็พบว่าหากผมยืนนิ่งๆบนบอร์ด อาจจะเอาไม้พายช่วยค้ำก่อน เมื่อเริ่มแรกขาทั้งสองข้างของผมจะสั่นดิกๆเพราะพยายามทรงตัวอยู่บนบอร์ดที่แกว่งไปตามกระแสคลื่น สักพักหนึ่งก็จะเริ่มสั่งช้าลงจนยืนได้นิ่งสนิท เหมือนกับตอนที่เราให้ Gimbal ของกล้อง Auto Stabilize ตัวมันเอง หลังจากนั้นผมก็พบว่าผมสามารถทรงตัวอยู่บนบอร์ดได้ได้โดยอัตโนมัติแม้จะมีคลื่นซัดเข้าใส่ (แต่ไม่แรงจนเกินไปนะครับ ผมไม่ได้เก่งขนาดนั้น)

พอเลิกสั่น เลิกกังวลกับการตกน้ำกลางทะเลที่มองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ใต้นั้นบ้าง ผมก็เริ่มได้รู้สึกถึงสัมผัสของแดดอ่อนยามเช้า, สายลมเย็นที่พัดผ่านตัว, ความเงียบสงบของโลกรอบๆตัว และการยืนบนบอร์ดก็ทำให้มองเห็นได้กว้างจนเห็นความงดงามของโลกอีกใบบนชายฝั่งจากมุมมองที่แตกต่าง

ผมไม่ได้พายไปไหนไกล และไม่จำเป็นต้องไป บางครั้งก็นั่งลงชื่นชมกับความสงบเงียบที่มีแต่เสียงลมและเสียงคลื่น และเมื่อนอนลงบนบอร์ดผมก็ได้มองเห็นฟ้าที่เปิดโล่งทุกทิศทางและสัมผัสธรรมชาติอย่างที่เราไม่มีทางรู้สึกได้ในเมืองใหญ่

และนั่นก็เช่นกัน มันคือช่วงเวลาที่งดงามของการใช้ชีวิตกลางแจ้งที่ผมแสวงหา

แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ระยะทางใกล้ๆ แต่มันก็เพียงพอแล้วที่คนจากภูเขาจะได้รับรู้ความงดงามของท้องทะเลที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัสมาก่อน ได้เห็นโลกในมุมมองของ “คนทะเล”​ ที่แตกต่างไป แม้จะเป็นเพียงชายขอบของวิถีของพวกเขา

และมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผมเรียนรู้ว่า ในโลกใบนี้ยังมีวิถีที่มุมมองที่แตกต่าง หากเพียงเราเปิดใจกว้างที่จะรับความแตกต่างนั้น มันก็อาจจะพาเราไปสู่สิ่งเดียวกันที่เราล้วนค้นหา

ลูกสาวผมอยากลงเล่นบ้าง
ตาเกิ้น
ตาเกิ้นhttp://takern.wordpress.com
นักสำรวจ, นักเขียน และนักเล่าเรื่อง

Leave a Reply

LATEST POSTS

คุ้มครองแต่ไม่เคยให้คุณค่า ตอน นกกรงหัวจุก

ผมเฝ้ามองการโต้เถียงกับเรื่องนกกรงหัวจุกหรือนกปรอดหัวโขน ระหว่างฝ่ายผู้เลี้ยงนกและ “นักอนุรักษ์” มาพักใหญ่แล้วในเรื่องว่า จะให้นกกรงหัวจุกคงอยู่ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองหรือจะปลดออก หลายคนคงมองว่านี่เป็นความขัดแย้งที่หาทางออกไม่ได้ แต่ผมกลับมองว่าถ้าเราเปิดใจมองร่วมกันและยอมรับวิธีคิดใหม่ๆ (ที่ประเทศอื่นเขาทำกันมานานแล้ว) เรื่องของนกกรงหัวจุกอาจจะเป็นโอกาสเปลี่ยนแปลงให้การอนุรักษ์ของประเทศนี้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้องเสียทีนะครับ ก่อนจะเข้าเรื่องนกกรงหัวจุก ผมขอเล่านิทานให้ฟังสักเรื่องหนึ่งก่อน อย่าเพิ่งเบื่อ อย่าเพิ่งมองว่ามันไม่เกี่ยวกันนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า พี่น้องสองคนทะเลาะกันเพราะแย่งส้มผลสุดท้ายในบ้าน ถึงขั้นตบตีกัน เสียงดังไปถึงแม่ แม่พยายามเจรจาให้แบ่งกันคนละครึ่งลูกก็ไม่มีใครยอม ต่างคนต่างบอกว่าต้องใช้ทั้งลูก นานเข้าพ่อที่นั่งเล่นของเล่นอยู่ทนรำคาญเสียงไม่ได้ จึงเดินมาแยกลูกสาวทั้งสองที่เริ่มจะจิกหัวฟัดกันให้ตายไปข้างหนึ่ง แล้วถามรายละเอียด บอกพ่อหน่อยว่าจะเอาส้มไปทำอะไร  คนพี่สาวก็บอกว่าจะทำแยมส้ม ส่วนน้องสาวบอกจะทำน้ำส้ม เมื่อคุยกันเช่นนี้พ่อก็ปอกเปลือกส้มให้ลูกสาวคนโตไปทำแยม แล้วก็เอาเนื้อส้มให้ลูกสาวคนเล็กไปคั้นน้ำ ลงตัวไปได้ทั้งสองคน ส่วนพ่อก็เอาเมล็ดส้มไปปลูกไว้ข้างบ้านต่อไปจะได้ไม่ต้องแย่งส้มผลสุดท้ายกันอีก นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าถ้าเราคุยกันดีๆมันจะมีทางออกที่ไม่ต้องมีคนแพ้คนชนะ แต่มันจะมองไม่เห็นเวลาทะเลาะกันจนหน้ามืด ใครยังไม่ได้ติดตามข่าวยังไม่รู้เรื่องความขัดแย้งของนกกรงหัวจุก...

นิยมไพรสมาคม และจุดเริ่มต้นของการอนุรักษ์ในประเทศไทย

เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้หนังสือรายเดือนของ “นิยมไพรสมาคม” มาจากมิตรสหายหลายเล่มและกำลังทะยอยอ่านอย่างบรรจง (เพราะหนังสือเหล่านี้มีอายุ 65 ปี แทบจะกรอบเป็นผงอยู่แล้ว)   ผมอ่านแล้วตื่นตะลึงมากครับ ผมเคยได้ยินได้อ่านเรื่องราวของคุณหมอบุญส่ง เลขะกุลมาบ้างว่าท่านสร้างสรรค์ส่งดีๆไว้มากมาย แต่ไม่เคยรับรู้เรื่องนิยมไพรสมาคมมากนัก  และดูเหมือนว่าเรื่องราวของสมาคมนี้ได้เลือนหายไปจากความรับรู้ของสังคมไทยแล้ว  เลยขอมาเล่าเรื่องหลายอย่างสู่กันฟังถึงประวัติศาสตร์สำคัญของการอนุรักษ์ในบ้านเราที่กำลังจะลืมเลือนไป ในยุคก่อนปี พ.ศ. 2500 ประเทศไทยยังไม่รู้จักกับคำว่า “อนุรักษ์” ใดๆเลย (ในหนังสือก็ยังไม่มีคำนี้) ตอนนั้นใครอยากจับจองที่ตรงไหนก็ไปแจ้งที่อำเภอแล้วก็ลงมือถาง สัตว์ป่าทุกชนิด (ยกเว้นช้าง) ไม่มีกฎหมายอะไรคุ้มครอง ใครอยากล่าอะไรด้วยวิธีไหน...

Editor ใช้ Award เดินป่า โดยตาเกิ้น

พวกเราที่ ThailandOutdoor มีความโชคดีที่เราได้มีโอกาสทดสอบทดลองอุปกรณ์กลางแจ้งมากมาย และก็จะมีของบางอย่างที่เราทดสอบแล้วชอบจนซื้อไว้ใช้เอง เราเรียกของเหล่านั้นว่า "Editor ใช้ Award"  และนี่คือ "Editor ใช้ Award" ปี 2022 จากตาเกิ้นครับ VDO ยาวนะครับเพราะอธิบายกันทุกอย่างรวมถึงเหตุผลที่เลือกใข้ในสถานการณ์ต่างๆกัน เราแบ่งเป็นช่วงๆให้เลือกดูกันได้ครับ ตามนี้เลย บางคนอาจจะบอกว่าผมใช้แต่ของแพงๆหรูๆ ก็อาจจะจริง หรือไม่ แล้วแต่มุมมองครับ ทุกอย่างในชีวิตเราล้วนแล้วแต่ขึ้นกับว่าเราให้ลำดับความสำคัญกับอะไร  สำหรับผมแล้ว ผมไม่ได้ซื้อของอื่นหรูหราอะไร แต่การออกมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ การเดินป่า คือความสุขในชีวิตผม ผมจึงเลือกใข้แต่ของดีๆ...

ไปเรียนหลักสูตรปืนพกต่อสู้กับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ

ผมเขียนบทความนี้ไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.2552 เขียนข้างหลังกระดาษสำเนา ป.4 (ทะเบียนปืน) ในช่องยิงทันทีที่เรียนเสร็จ เขียนด้วยความประทับใจของการสอนยิงปืนในคอร์สนี้ ถึงวันนี้แม้ว่าหลายๆอย่างจะเปลี่ยนไป แต่ผมยังคงข้อความทุกอย่างที่เขียนในบทความนี้ไว้อย่างเดิมรวมทั้งรูปภาพเดิมที่อาจจะไม่ชัดนัก ด้วยความตั้งใจปัจจุบันโรงเรียนสอนยิงปืนแห่งนี้เปลี่ยนชื่อเป็น ชมรมยิงปืนเขาสามยอด ยังตั้งอยู่ที่สถานที่เดิมในค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี สอนมาต่อเนื่องถึง 14 ปีแล้วถ้านับถึงวันนี้ หลักสูตรพัฒนาไปมาก และมีถึง 8 หลักสูตรให้เรียนได้ตามลำดับขั้น และยังสอนโดยหัวหน้าชุดครูท่านเดิมที่มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะให้คนไทยได้เรียนรู้การใช้อาวุธปืนได้อย่างถูกต้องผมเชื่อว่าที่นี่คือโรงเรียนสอนยิงปืนที่ดีที่สุดที่เราจะสามารถเรียนได้ในประเทศไทย ผมเขียนอธิบายเพิ่มเติมไว้ที่ตอนท้ายของบทความนี้ครับ ในสังคมที่บิดเบี้ยวมากขึ้นทุกวัน ดูเหมือนพวกเราสุจริตชนจะต้องเสี่ยงกับภัยคุกคามรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นโจร...

Most Popular

%d