Thursday, April 25, 2024
Homeความคิดและมุมมองครอบครัวและความรักการทำเรื่องเฉิ่มๆที่ดีที่สุดในชีวิตผม

การทำเรื่องเฉิ่มๆที่ดีที่สุดในชีวิตผม

-

ไหนๆเรื่องมันก็นานจนหมดอายุความแล้ว วันนี้ขอเอาความลับมาเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะครับ

เย็นวันหนึ่งหลังจากเลิกเรียน ผมรีบออกมายืนอยู่นอกประตูโรงเรียนทางด้านถนนอังรีดูนังต์ ใจเต้น มือสั่น ไม่แน่ใจว่าจะเอายังไงดี

จนกระทั่งมีสาวคนหนึ่งเดินออกประตูมา ผมจึงตัดความลังเล ทำใจให้กล้าแล้วเดินเข้าไปหา

“ผมเดินไปเป็นเพื่อนนะ” ท่องอยู่ตั้งนานแต่ก็พูดออกมาได้แค่นี้ 

สาวคนนั้นทำหน้างงปนตกใจ เราเป็นเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกัน เจอกันอยู่ทุกวันแต่เขาคงนึกไม่ถึงว่าจะมาเจอผมตรงนี้ ผมรู้มาว่าทุกเย็นเธอจะเดินไปหาน้องสาวที่โรงเรียนมาแตร์เพื่อจะกลับบ้านด้วยกันจึงได้ออกมาดักรออยู่

เธอไม่ได้ปฏิเสธและผมก็ได้เดินไปด้วย 

“ผมถือกระเป๋าให้นะ” 

หลังจากนั้นผมก็มาดักรอที่เดิมหลังเลิกเรียนทุกเย็น ระยะทางจากโรงเรียนเตรียมฯ ไปยังโรงเรียนมาแตร์ก็ไม่ได้ใกล้นัก แต่ทุกครั้งที่เดินไปผมก็อยากจะให้ทางนั้นไกลขึ้นอีกเล็กน้อยก็ยังดี

เมื่อมามองย้อนไป มันเป็นเรื่องเฉิ่มมาก แต่ผมก็ดีใจที่ได้ทำลงไป เพราะโดยที่ไม่ได้คาดคิด วันนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่กลายมาเป็นชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความสุข, รอยยิ้ม, อ้อมกอดอบอุ่น,​ ลูกที่น่ารัก และสิ่งงดงามอีกมากมาย

วันนี้เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ผมกล่าวขอบคุณ แขกที่มางานแต่งงานของเรา, ขอบคุณผู้ใหญ่ของเราทั้งสองฝ่ายที่สนับสนุนให้เราได้มีวันนั้น และ ผมก็กล่าวขอบคุณเจ้าสาวของผมที่รู้จักผมมานานถึงสิบปีและยังตัดสินใจแต่งงานกับผมได้

ทริป Honeymoon
วันแต่งงาน

เมื่อมาถึงวันนี้ผมคงต้องขอบคุณเธอมากกว่านั้นอีกมาก ขอบคุณที่ให้ผมเดินไปด้วย ขอบคุณที่ทำให้ผมมีครอบครัวที่แสนสุข ขอบคุณสำหรับทุกนาทีดีๆจาก 35 ปีที่ได้รู้จัก,33 ปีที่รักกัน และ 25 ปีแรกของการแต่งงาน

ขอบคุณสำหรับความรักที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงครับ

15 พฤษภาคม 2560

ตาเกิ้น
ตาเกิ้นhttp://takern.wordpress.com
นักสำรวจ, นักเขียน และนักเล่าเรื่อง

2 COMMENTS

Leave a Reply to ไหว้ครู | ThailandoutdoorCancel reply

LATEST POSTS

กบต้มน้ำร้อน

เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการหลบอยู่ในห้องแอร์แล้วเปิดเครื่องกรองอากาศให้รอดไปวันๆครับ ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วค่อยๆทวีความรุนแรงมาเรื่อยๆ จนหลายคนเริ่มเชื่อว่ามันต้องเป็นอย่างนี้แหละ แก้ไขไม่ได้ ต้องทนต้องปรับตัวกับมันไป ถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็จะเหมือนกับกบที่อยู่ในหม้อที่น้ำค่อยๆร้อนขึ้นทีละน้อยจนสุกทั้งตัวกินได้

ข้าวแช่, ร้านค้าเล็กๆ และ เศรษฐศาสตร์ “ชั่วข้ามคืน”

ที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดแสนอร่อยเจ้าประจำของผมที่เมืองประจวบ มีแผงขายข้าวแช่อยู่ คนขายเป็นคุณยายใจดี เราคุยกันทุกครั้งที่ผมแวะไป และก็สั่งข้าวแช่ของแกมากิน ครั้งนี้ก็เช่นกัน “เหลืออยู่แค่ 5 ชุด เหมาเลยมั๊ย” คุณยายถาม ครั้งนี้เรามากันหลายคนข้าวแช่ 5 ชุดจึงแทบจะแย่งกันกิน ข้าวแช่ของยาย ก็คล้ายๆกับข้าวแช่ที่หลายๆคนคุ้นเคยแถวเพชรบุรี ไม่ได้มีกับหลายอย่างประดิษประดอยแบบข้าวแช่ที่ขายกันแพงๆในเมืองกรุง เครื่องมีเพียง 2 อย่างคือลูกกระปิทอด กับปลาหวาน แต่อร่อยมากครับ ข้าวและน้ำข้าวแช่นั้นหอมมาก แกเคยเล่าให้ฟังว่าที่หอมอย่างนี้เพราะอบด้วยดอกชมนาดที่ออกดอกในช่วงหน้าแล้งอย่างนี้และต้องเก็บตอนเย็นจึงจะหอมที่สุด และยังคุยว่าข้าวแช่ของแกนั้นเคยได้รับรางวัลจากการประกวดด้วย อร่อยมาก ชุดหนึ่งไม่น้อยเลย แทบจะอิ่มได้หนึ่งมื้อ...

ของแท้ดั้งเดิม (Authenticity)

เริ่มมันเริ่มจากขณะที่เรากำลังเดินทางกลับจากแค้มป์ในทริปหนึ่ง ผู้การตู้น้องรักก็ชวนเราแวะกินข้าว “พี่ครับ แถวบ้านผมมีศูนย์อาหารเปิดใหม่ มีร้านดังๆมากมาย ขาหมูตรอกจุง, ข้าวหน้าไก่หกแยก ฯลฯ เราแวะกินกันมั๊ยครับ” เท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะจุดประกายให้ผมเริ่มบทสนทนาที่คล้ายคนแก่เล่าเรื่องเก่า เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมมีร้านโจ๊กเจ้าประจำอยู่ร้านหนึ่ง อยู่หน้าโรงพยาบาลหัวเฉียว ใกล้โบ้เบ้ ผมได้กินโจ๊กร้านนี้มาตั้งแต่พ่อไปหาหมอที่นั่น นับย้อนหลังไปได้กว่า 20 ปี ร้านเป็นห้องแถวห้องเดียว อาเจ็กแกต้มโจ๊กขายหม้อเดียวในแต่ละวัน สายๆขายหมดก็เลิก บ้างวันผมมาสายก็ไม่ได้กิน ผู้คนที่แวะเวียนมาก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนในละแวกนั้น อาซ้อก็มาช่วยทำช่วยขาย ผมแวะไปกินโจ๊กทุกครั้งที่ไปแถวๆนั้น นอกจากโจ๊กของแกอร่อยมากแล้ว อาเจ็กก็เป็นกันเองมาก ต้มน้ำชาร้อนมาให้ผมจิบแก้เลี่ยนจากปาท่องโก๋ที่ผมข้ามถนนไปซื้อมา  เรานั่งคุยกันเสมอ ถามสารทุกข์สุกดิบกัน แกเคยเล่าให้ผมฟังว่าอยู่ย่านนี้มาตั้งแต่เกิด...

คุณค่าที่คลาดเคลื่อน

https://www.youtube.com/watch?v=NF2EMmR3foQ ถ้าคุณใจไม่หนักแน่นพอ ผมไม่แนะนำให้ไปเดินป่าระยะไกล 101 กิโลเมตรที่แม่เงานะครับ ในชีวิตผมเดินป่ามาก็ไม่น้อย แต่การเดินป่าติดกันยาวนาน 9 วัน มันทำให้ผมเปลี่ยนไปมากว่าที่จะคาดคิด มันอาจจะเป็นความยาวนาน อาจจะเป็นสภาพที่ดิบของป่าเขา หรืออาจจะเป็นตัวผมเองอยู่ที่สุดขอบความคิดที่สุกงอมเต็มที่ หรืออาจจะเป็นสิ่งเหล่านี้ประกอบกัน ระหว่างอยู่ในป่าก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ เราก็แค่เดินไปทีละวัน มันก็แค่ไกลและหลายวันหน่อยเท่านั้น แต่มาเห็นผลตอนที่ออกจากป่ากลับมาสู่สังคมเมือง ผมพบว่าผมคุยกับใครแทบไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่เรื่องภาษาหรือคำพูด แต่หากเป็นสิ่งที่อยู่ลึกอยู่ใต้การสนทนานั้น เมื่อมีคนคุยเรื่องอะไรขึ้นมาผมก็พบว่าผมไม่สนใจจะฟังเรื่องเหล่านั้น และรู้สึกได้ว่าเรื่องที่ผมอยากจะคุยอยากจะเล่าก็ไม่มีใครอยากฟัง เปิดโซเชี่ยลมีเดียขึ้นมายิ่งหนักขึ้นไปอีก เต็มไปด้วยเรื่องที่ดูแล้วกวนใจ ทนไม่ได้กับการเห็นอะไรมากมายที่ก้าวข้ามเส้นจริยธรรมเพียงเพื่อเรียกร้องความนิยม นอกจากนั้น มองไปรอบตัวเมื่อเห็นสิ่งของมนุษย์สร้างขึ้นและเรื่องราวที่สังคมปรุงแต่งขึ้นมา ล้วนแล้วแต่มองเห็นมันเป็นของปลอมๆกับเรื่องสมมุติ  อะไรที่เราเคยอยากได้อยากมี...

Most Popular

Discover more from ThailandOutdoor Netzine

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading