“Trekking in the NEPAL HIMALAYA”
ตอนที่ 2 : “นมัสเต LUKLA”
เช้าวันถัดมา เราตื่นตี 3 ครึ่ง เพื่อลงมาขึ้นรถหน้าโรงแรมตอนตี 4 เพราะเรามีไฟล์บินเครื่องบินเล็กจากเมืองกาฐมัณฑุไปลงที่ลุกลา เราแบกเป้ใบเขื่องของเราลงมาแบบสบายๆ เราเรียกเด็กที่ดูแลหน้าฟร้อนด้วยเสียงเบาจนเกือบจะกระซิบให้เค้าช่วยเรียกแท็กซี่ที่บอกไว้เมื่อวานให้เราหน่อย เด็กหนุ่มกระเด้งตัวออกมาจากโซฟาและรีบเดินออกไปเรียกรถให้เราด้วยความกระตือรือล้น เรารออยู่เพียง 5 นาที ก็มีแท็กซี่ป๋องแป๋งคันจิ๋วสีเหลืองอ่อนที่คิดว่าอดีตเคยเป็นสีขาวมาก่อน มาจอดเทียบประตูโรงแรม เด็กหนุ่มหน้าฟร้อนยังคงช่วยเรายกกระเป๋าขึ้นรถจนเรียบร้อย เค้านำผ้าพันคอผืนบางมาคล้องให้เราและอวยพรให้เราเดินทางปลอดภัย เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากโรงแรม เรายังคงเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นยืนมองเราจนลับสายตา
ตี4 ครึ่งเรามาถึงที่สนามบิน แท็กซี่จอดส่งเราที่ลานจอดรถมืดๆที่มองยังไงก็ไม่น่าจะใช่จุดหมายของเรา เราถามเค้าย้ำอีกครั้ง Airport? คนขับรถยังคงย้ำคำเดิมว่าใช่ พร้อมทั้งชี้ให้เราเดิมตามทางเดินมืดๆ ข้างหน้า มองเห็นลางๆเป็นเหมือนตึกร้างโทรมๆ ที่เหมือนผ่านพายุมาหมาดๆ เราตัดสินใจยกเป้ขึ้นไหล่แล้วเดินตรงไปตามทางที่เค้าบอก ทางที่เราเดินเป็นพื้นดินแฉะๆ อับๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบน ก็เห็นเพียงหลังคาผุพังพร้อมสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมด เราเกือบจะคิดไปเลยเถิดก็เจอฝรั่งกลุ่มใหญ่เดินตามเรามาซ่ะก่อน ทำให้เราแน่ใจ ว่าเรามาถูกทาง
เรายืนมองประตูที่ปิดสนิทอยู่ร่วมชั่วโมง เพราะสนามบินยังไม่พร้อมเปิดให้เราเข้า จนสุดท้ายเราได้เข้าไปเช็กอินตอนตี 5:45 ในขณะที่ไฟล์บินคือ 6:00 เช้า สิ่งที่ทำให้เราหงุดหงิดคือการแซงคิวจากบรรดาเจ้าหน้าที่ทัวร์ทั้งหลายที่ยกกระเป๋ากระแทกไหล่เราลูกแล้วลูกเล่าเพื่อให้ได้เช็กอินเร็วที่สุด
ถึงแม้จะวุ่นวายและทุลักทุเลแต่สุดท้ายเราก็ได้ตั๋วมาอยู่ในมือและตรงดิ่งผ่านมือคนตรวจที่รูดตัวเราตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความรวดเร็วดิ่งไปขึ้นรถเมล์เก่าๆสีเขียว
เพื่อไปขึ้นเครื่องบินใบพัดลำจิ๋วขนาดไม่เกิน 15 ที่นั่งที่จอดอยู่ท้ายสนามบิน เราถูกต้อนขึ้นเครื่องเหมือนคิวรถตู้ เลือกที่นั่งตามชอบใจ รัดเข็มขัดหลวมๆ และออกบินด้วยความรวดเร็ว
เรายังไม่ทันหายตื่นเต้นกับลีลาการบินเฉียดเขาหลายต่อหลายลูก 30 นาทีผ่านไป ก็ถึงจุดหมายของเรา “LUKLA”
ติดตามตอนที่ 3 เร็วๆ นี้ค่ะ
Rabbit