ตอนที่ 1 : “วันแรกก็ไม่ง่าย กว่าจะได้พบเธอเนปาล”
วันแรกของการเดินทาง ตื่นเต้นจนนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นแต่เช้าแบกเป้ออกจากบ้านด้วยรอยยิ้ม นั่งเครื่องไปด้วยอารมณ์ชื่นบาน อีกแค่ 10 นาที เราจะถึงท่าอากาศยานไตรภูวัน ประเทศเนปาล แต่ด้วยสภาพอากาศที่กำลังเกิดพายุฝนอยู่เหนือน่านฟ้าของประเทศเนปาล ทำให้เครื่องบินของเราที่กำลังจะลงจอด ต้องบินวนอยู่เหนือสนามบินร่วมชั่วโมง เครื่องวูบขึ้นวูบลงเหมือนเล่นรถไฟเหาะ จากที่ดูเหมือนสนุกในครั้งสองครั้งแรก เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนาน อาการวูบไปมาหรือที่เรียกกันแบบเข้าใจง่ายๆ ว่าเครื่องตกหลุมอากาศนั้น เริ่มทวีความรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง ผู้โดยสารเริ่มกรีดร้องกันเสียงดังด้วยความกลัว จากตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอมันเริ่มหนักๆ เข้า ภาพบรรยากาศตอนเครื่องกำลังจะตกในหนังหลายต่อหลายเรื่องที่เราชอบดู เริ่มดูเหมือนเหตุการณ์ที่เรากำลังเจอในขณะนี้จริงๆ หลังจากกัปตันอดทนอยู่เนิ่นนาน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าพายุจะเบาบางลง สุดท้าย กัปตันติดสินใจประกาศขอนำเครื่องเปลี่ยนทิศหันหัวกลับกรุงเทพบ้านเราอีกครั้ง!! เป็นอันว่า วันนี้เราได้นั่งเครื่องบินวนดูยอดเขาเล่นไปหนึ่งวันเต็มๆ
เช้าวันที่สอง เรากลับมาที่เก้าอี้หมายเลขเดิมบนเครื่องบินลำเดิม อาหารบนเครื่องแบบเดิม บรรยากาศแบบเดิม และบินวนอยู่เหนือท่าอากาศยานไตรภูวันอีกเหมือนเดิม
หลังจากเครื่องสั่นไปมาให้เลือดพอสูบฉีด 30 นาทีต่อมา เครื่องที่เรานั่งมาครั้งที่สองก็สามารถเอาล้อแตะที่รันเวย์สั้นๆ ในสนามบินเล็กๆ แห่งนี้ได้สำเร็จ แค่เดินทางมาให้ถึงจุดเริ่มต้นก็ไม่ง่ายซ่ะแล้ว หลังจากผ่านความลุ้นระทึกมาร่วม 10 ชั่วโมง เมื่อเท้าเราได้ก้าวขาออกมานอกสนามบิน นั่นแหล่ะคือก้าวแรกของทริปนี้
หลังจากที่เราก้าวเท้าแรกออกมาจากสนามบิน ภาพแรกที่เห็นคือ “คน” ที่เยอะมากกกกก ต่างคนต่างชูป้ายตามหาลูกค้าโรงแรมของตัวเอง พร้อมเสียงตะโกนเรียกชื่อนับร้อยชื่อที่ปะปนกันในอากาศจนจับใจความไม่ได้สักชื่อ เราเดินทำหน้างงๆ อยู่สักครู่ ก็มีหนุ่มหน้าคมเดินถือป้ายชื่อเราตรงดิ่งมาถาม “katai? pun?” เราตอบเกือบพร้อมกัน “yes!” เจ้าของป้ายชื่อเดินนำเราไปที่รถเพื่อเดินทางไปโรงแรม ในช่วงที่เรากำลังเดินตามเค้าต้อยๆ อย่างว่าง่าย ต่ายหันไปถามพี่ปั้นด้วยความสงสัยว่า “นี่พี่ใส่ชื่อ Katai&pun แบบนี้เลยเหรอ แล้วเค้าจะอ่านออกมั้ย” พี่ปั้นตอบว่า “แล้วคิดว่าใส่ชื่อจริงเค้าจะอ่านออกเหรอ” “เออออออ จิง ปิดประเด็น” ไม่น่าถามเลยกรู – -”
“หนุ่มหน้าเข้มที่มารับเราจากสนามบินไปโรงแรมในเมือง Kathmandu”
“จราจรในเมือง Kathmandu ที่ติดไม่แพ้กรุงเทพบ้านเรา คนขับบอกว่ารถติดเป็นปกติแบบนี้อยู่แล้วทุกวัน”
เราจองโรงแรมไว้ล่วงหน้าแล้วจากเมืองไทย แต่ไม่คิดว่าโรงแรมจะอยู่ใจกลางแหล่งช็อปปิ้งอย่าง ย่านทาเมล แบบกลางย่านขนาดนี้ รอบโรงแรมของเราจึงเต็มไปด้วยเสียงอื้ออึง แตรรถที่ดังจนแสบแก้วหู คนจูงจามรีเดินกลางถนน รถยนต์ มอเตอร์ไซน์ จักรยาน แล้วก็คน คน คน คน เต็มไปหมด ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกเรายืนมองสิ่งรอบตัวแบบงงๆ ตื่นเต้นกับความรู้สึกใหม่รอบตัว แต่เมื่อเราใช้เวลาร่วมกันสักระยะ เสียงแตรที่แหลมบาดหู กลับหายกลืนไปกับเสียงลม ผู้คนที่เคยวุ่นวายกลับกลายเป็นภาพที่ชินตา ทาเมล ที่ดูไม่เป็นมิตร เริ่มขยับมาใกล้ จนสุดท้ายถึงขั้นคล้องแขนเป็นเพื่อนสนิทกันไปได้แบบใช้เวลาแค่ซดกาแฟหมดไป 2 แก้วเท่านั้น
ก่อนที่เราจะเดินเล่น หรือทำกิจกรรมอื่นใด สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ ตามหาสถานที่ออกใบอนุญาติการเดิน trekking ในอุทยานแห่งชาติ Sagamatha ซะก่อน นักเดินทางทุกคนที่ต้องการเดิน trekking สู่ ABC EBC หรือเส้นทางใดก็ตามในเทือกเขาเอเวอเรส ต้องมาลงทะเบียนเพื่อแสดงตัวตนและจ่ายค่าธรรมเนียมแพงหูฉี่ที่นี่ (ประมาณ 8,890 รูปี) และ Trekking pass เล่มนี้ต้องติดตัวเราไปตลอดทริป เพราะระหว่างทางที่เราเดินจะเจอจุดตรวจ Trekking pass อยู่แทบตลอดทาง เพื่อยืนยันตนว่าคุณกำลังอยู่ในบริเวณไหนของอุทยาน เพราะจริงๆ แล้วเส้นทางนี้ยังเต็มไปด้วยอันตรายและมีนักเดินหายตัวไปบ่อยครั้ง Trekking pass เล่มนี้จึงมีความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยของตัวคุณเองระหว่างที่อยู่ในเส้นทางนี้
หลังจากได้ Trekking pass มาอยู่ในมือเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาเที่ยวเล่นในเมืองของเราล่ะ
“Himalayan Java Coffee” กาแฟร้านโปรดของเราใน Kathmandu
ในย่านทาเมลที่คลาคล่ำไปด้วยสินค้าให้ช็อปแบบละลานตาแล้วนั้น ทาเมลยังมีร้านกาแฟรสเยี่ยม ราคาไม่แพงซ่อนตัวอยู่ เราใช้เวลาอยู่ที่ร้านนี้หลายชั่วโมงเพื่อทวนแผนการเดินทางของพรุ่งนี้อีกครั้ง และ list รายการของที่เราต้องซื้อเพิ่มอีกหลายชิ้น (ซึ่งของที่ว่าเหล่านั้นหาได้อย่างง่ายดายในทาเมล) เพราะทาเมลถือว่าเป็นแหล่งที่มีร้านจำหน่ายเสื้อผ้า อุปกรณ์เดินป่า trekking เป็นจำนวนมาก มีทั้งสินค้ามือหนึ่งราคาแพง มือสองราคาถูก หรือของเลียนแบบที่หาซื้อได้ง่ายพอกันอยู่เกลื่อนถนน
“Americano แก้วนี้ราคา 110 รูปี หรือประมาณ 38 บาทเท่านั้น”
“ศึกษาแผนที่การเดินทางอย่างจริงจังอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มเดินจริงวันพรุ่งนี้”
เย็นวันนั้นเราเดินเที่ยวเล่นอยู่ใน Kathmandu ได้หนึ่งเหนื่อย ก็ต้องตัดใจลากตัวเองกลับโรงแรมเพื่อจัดของเตรียมตัวเดินทางในวันพรุ่งนี้แต่เช้าตรู่ ของถูกจัดลงกระเป๋าเรียบร้อย แต่ตัวเรายังนอนตาใสแจ๋วด้วยความตื่นเต้น
“พรุ่งนี้เราก็ได้เจอกันแล้ว Hiramaya”
**ติดตามตอนต่อไปที่นี่ เร็วๆ นี้ค่ะ**
Rabbit