ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนร้าน Outdoor ที่ผู้คนรู้จักกันกว้างขวาง ผมนับว่าล้มเหลวอย่างมาก
ที่เอาถุงนอนขนห่านอย่างดีไปนอนเปียกน้ำค้างจนชุ่ม ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าถุงนอนขนห่านนั้นดีทุกประการแต่มันกลัวน้ำกลัวเปียก เอาเต็นท์น้ำหนักเบาไปด้วยแต่ไม่กาง กลับเอามาคลุมตัวหวังกันน้ำค้างไม่ให้เปียกถุงนอน แต่ก็ไม่ช่วยอะไร
แต่ในฐานะคนกลางแจ้งคนหนึ่ง ผมว่าคืนนั้นผมก็ใช้ได้อยู่นะ
ผมมีเพียงแผ่นรองนอนและถุงนอนอยู่ข้างๆ กองไฟ ข้างหน้าคือผาหินอลังการของดอยม่อนจอง ในมุมที่น้อยคนนักจะได้เคยเห็น รอบตัวคือป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยไม้ใหญ่หนาทึบและสรรพสัตว์อยู่ในหุบเขาลึกลับ ความอบอุ่น, กลิ่นหอมและแสงวอมแวมของกองไฟสร้างความอบอุ่นทางใจให้กับคนนอนป่า เสียงสนทนาของมิตรสหายแว่วมาเบาๆ จับใจความพอได้ว่าพ่อหลวงกำลังเล่าเรื่องตำนานของสันเขาและป่าแห่งนี้ ไม่นานนักผมก็หลับไปด้วยความเพลียที่เดินกันมาสองวัน


ผมตื่นลืมตาขึ้นมาอีกครั้งกลางดึกเพราะเสียงเก้งร้องไม่ไกลจากแค้มป์ พระจันทร์คืนวันเกือบเต็มดวงขึ้นมาจากหลังหน้าผานั้น ส่องสว่างไปทั้งหุบเขา ผมนอนมองและเฝ้าฟังเสียงทุกอย่างที่เป็นไปรอบตัว แม้จันทร์จะขึ้นจนกระจ่างฟ้า แต่บนผืนดินที่มืดสนิทเช่นนี้เราก็ยังสามารถเห็นดาวได้ไม่น้อย ผมรับสัมผัสได้ถึงลมที่พัดมาเบา เสียงแมลงและเสียงของป่าที่ดังอยู่รอบไปหมด ผมนอนดู รับรู้ความงดงามรอบตัวนั้น และอยากจะสัมผัสมันให้นานที่สุด แต่ไม่นานก็หลับไปอีก
อาจจะตีสามหรืออาจจะใกล้ตีสี่ น้ำค้างหนักมากจนถุงนอนผมชุ่มไปหมด พระจันทร์ตกไปแล้วแต่เมื่อลืมตาขึ้นมาผมก็พบกับดาวเต็มฟ้ามากมายอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน หน้าผายังคงอยู่ข้างหน้าตรงนั้นเป็นเงาที่ยังพอเห็นได้จากแสงดาว

ผมนอนมองภาพนั้นอยู่พักใหญ่น่าจะเป็นชั่วโมง แสงสีส้มก็เรืองขึ้นที่ขอบฟ้าทางขวามือ ดาวเริ่มหายไป เสียงของป่าเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง วันใหม่ของป่าเริ่มขึ้นแล้ว
ทุกครั้งเมื่อมีคนถามว่าทำไมต้องออกมาเดินป่าผมต้องหยุดคิดอยู่นาน และคำตอบของผมก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนพยายามหาข้อแก้ตัว จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ที่ผมเริ่มมีคำตอบที่คิดว่าใช่

บางครั้งเราเดินป่ากันหลายสิบ หรืออาจจะเป็นร้อยกิโลเมตร โดยที่ไม่รู้ว่าเดินไปหาอะไร คนส่วนหนึ่งอาจจะเดินเพื่อค้นหาความงามเพื่อบันทึกลงภาพถ่าย บางคนเพื่อพิสูจน์ เพื่อพิชิต หรือแม้แต่เพื่อเอาไปอวดกัน แต่นั่นผมคิดว่าเขากำลังอยู่ในกระบวนการเรียนรู้
สำหรับผมแล้ว การเดินป่าคือการค้นหาช่วงเวลาเช่นนี้ สิ่งที่เราเรียกมันว่า “ช่วงเวลาที่งดงามของชีวิตกลางแจ้ง” “A beautiful moment of Outdoor Life” ซึ่งอาจจะแตกต่างออกไปในมุมความคิดของแต่ละคน
ช่วงเวลาที่เราได้สงบนิ่ง ไร้ตัวตน เป็นส่วนหนึ่งกับสิ่งรอบข้าง สิ่งที่คนทั่วไปเรียกมันว่าธรรมชาติ ช่วงเวลาที่ความคิดของเรามีแต่ความงดงาม
เราจะพบช่วงเวลาเช่นนี้ได้เมื่อเราเข้าใจ และเปิดรับ มันอาจจะซ่อนอยู่ในเส้นทางเดินยาวไกลที่จะพาเราไปให้พ้นความซิวิไลย์ หลุดออกไปจากสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งในรูปวัตถุและกรอบความคิด หรือมันอาจจะซ่อนอยู่ริมลำธารใกล้ๆหมู่บ้านที่ไหนสักแห่ง
เช้าวันนั้นผมตื่นขึ้นมาด้วยใจที่เต็มไปด้วยพลัง ผมมีความมุ่งมั่นและความเข้าใจถึงหน้าที่ที่ต้องทำ ผมจะต้องทำให้ผู้คนสักส่วนหนึ่งได้สัมผัสกับความงดงามเช่นนี้ และในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างเส้นทางเดินป่าเช่นนี้ขึ้นมาเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่รักป่าดูแลป่าอย่างบ้านห้วยไม้หก
แต่กระนั้นมันก็มาพร้อมกับความกังวลใจในทางโลกสองอย่างคือ หนึ่งคือถุงนอนขนห่านสุดที่รักของผมจะพังมั๊ย (สรุปว่ามันไม่พังครับ สลัดๆ น้ำ แล้วตากแดดสักหน่อยก็รอดแล้ว ของดีๆ มันเป็นอย่างนี้ครับ)
ข้อสองคือคำพูดของน้องๆ ที่ร้าน “พวกหนูเข้าใจนะว่าพี่ชอบนอนกลางแจ้งดูดาว ตากน้ำค้าง แต่ถ้าพี่จะทำ ไม่ต้องออกสื่อได้มั๊ย ที่ร้านเราขายเต็นท์ค่ะพี่”
ตาเกิ้น
7 ธันวาคม 2568
หมายเหตุ: เส้นทางเดินป่าบ้านห้วยไม้หกนี้อยู่ในระหว่างการสำรวจความเป็นไปได้ โดยเป็นการร่วมมือกันของชุมชนห้วยไม้หก, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร โปรดรอติดตามข่าวดีเร็วๆนี้
