Monday, May 29, 2023
Homeความคิดและมุมมองชีวิตท่ามกลางอากาศอิสระ

ชีวิตท่ามกลางอากาศอิสระ

-

ทุกครั้งที่ผมนั่งดูภาพที่ถ่ายมาจากป่าเช่นภาพนี้ ผมจะรู้สึกเสียดายมากที่ไม่ว่าผมจะพยายามเพียงใด ภาพถ่ายก็ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกที่ผมได้รับในตอนนั้นออกมาได้

มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย เมื่อมีคนถามผมว่าทำไมผมถึงชอบเข้าป่า

เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้รู้จักกับคำคำหนึ่ง “Friluftsliv” จากภาษานอร์วีเจียน (อ่านว่า ฟรี-ลูฟ-ลิฟ) แปลว่า “ชีวิตท่ามกลางอากาศอิสระ” 

Friluftsliv นี้เป็นปรัชญาความคิดที่ฝังรากลึกลงไปในวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคน Nordic (นอร์เวย์, สวีเดน, เดนมาร์ก) มันไม่ได้หมายถึงการออกไปพิชิตยอดเขาสูง, ไปวิ่งแข่งเพื่อชัยชนะ หรือกิจกรรมอะไร แต่หมายถึงการ “แค่ออกไป”​ ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ  ซึ่งอาจจะเป็นแค่การออกไปกินข้าวในสวนหลังบ้าน, ออกไปแคมป์ในอุทยาน หรือ ออกไปกลางป่าที่ไหนสักแห่งที่ห่างไกลผู้คน เพื่อที่จะ “เชื่อมต่อ” กับธรรมชาติซึ่งเป็นวิถีดั้งเดิมของมนุษย์อีกครั้ง

ทุกครั้งที่ได้ออกไปอยู่ท่ามกลางป่าเขา ผมจะรู้สึกได้ว่าประสาทสัมผัสของผมสามารถรับรู้สิ่งต่างๆรอบตัวได้ดีขึ้น ผมได้ยินเสียงนกที่ร้องแผวเบามาจากยอดไม้ไกลๆ, รู้สึกได้ถึงสายลมที่พัดผ่านตัว, รู้สึกถึงความนุ่มนวลต่อเนื่องของกระแสน้ำในลำห้วย, แสงสว่างที่แฝงไปด้วยมนต์สเน่ห์ของแสงจันทร์ในคืนเต็มดวง, ความสดชื่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของแสงแรกที่ส่องผ่านยอดไม้ลงมาในตอนเช้า ฯลฯ

Friluftsliv ที่ฝังรากลึกลงในวัฒนธรรมของกลุ่มประเทศ Nordic นั้นทรงพลังถึงขนาดที่ทำให้กลุ่มประเทศเหล่านี้มีกฎหมายคล้ายๆกันในเรื่อง “Freedom to Roam” ที่อนุญาตให้ทุกคนสามารถเดินและตั้งแค้มป์ที่ไหนก็ได้ไม่ว่าที่ตรงนั้นจะเป็นที่ส่วนบุคคล, ป่าสงวน หรืออุทยาน ตราบใดที่ไม่เป็นการรบกวนผู้คนในพื้นที่และสัตว์ป่า

การออกไปสัมผัสธรรมชาติในรูปแบบนี้ยังไม่แพร่หลายนักในบ้านเรา แต่ผมอยากจะเชิญชวนให้คุณออกไปสัมผัสดูบ้าง การออกไปใช้ชีวิตในธรรมชาติโดยไม่ต้องมีความมุ่งหวังใดๆ ออกไปเพียงเพื่อที่จะอยู่ตรงนั้น

ผมเชื่อว่าถ้าคนสักส่วนหนึ่งได้ไปสัมผัสความรู้สึกนี้แล้วเราจะมาร่วมกันสร้างวัฒนธรรมกลางแจ้งขึ้นมาด้วยกัน และวัฒนธรรมกลางแจ้งนี้จะเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดในการกำหนดทิศทางของการอนุรักษ์ธรรมชาติของบ้านเราให้ไปในทิศทางที่ถูกต้องและควรจะเป็น

เพราะด้วยทิศทางของการ “อนุรักษ์” ในบ้านเราทุกวันนี้ นอกจากธรรมชาติจะหมดไปอย่างรวดเร็วแล้ว ยังดูเหมือนว่าเรากำลังถูกจำกัดพื้นที่และสิทธิในการออกไปใช้ชีวิตในธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆโดยที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว

ถ้าเราไม่ใช้, ไม่เห็นความสำคัญของสิทธินี้และไม่เรียกร้องสิ่งที่เราสมควรได้รับ มันก็คงจะหมดไปไม่มีเหลือ

ตาเกิ้น

ตาเกิ้น
ตาเกิ้นhttp://takern.wordpress.com
นักสำรวจ, นักเขียน และนักเล่าเรื่อง

Leave a Reply

LATEST POSTS

ต้นแบบของสุภาพบุรุษกลางแจ้ง

จาก อลัน ควอเตอร์เมน จนถึง รพินทร์ ไพรวัลย์ และ Indiana Jones ถ้าจะพูดถึงชื่อหนึ่งที่มีบทบาทเป็นตัวอย่างของสุภาพบุรุษกลางแจ้งมานับร้อยๆปี ก็คงต้องเล่าถึง อลัน ควอเตอร์เมน ครับ อลัน ควอเตอร์เมน (Allan Quatermain) เป็นตัวละครเอกในนิยายเรื่อง King Solomon’s Mine ที่เขียนโดยนักเขียนชาวอังกฤษ H. Rider Haggard (Sir...

The Outsiders

ในเวลาหนึ่งผมเคยเขียนในบทความไว้ว่า “หมู่บ้านในนิทาน” หรือ “Shangri-la” ในนวนิยายเรื่อง Lost Horizon ของ James Hilton นั้นมีอยู่จริงในมุมเล็กๆของโลกใบนี้ หลายคนได้ค้นหามันจนเจอ แต่แล้วพวกเขาก็เป็นคนทำให้มันสูญหายไปด้วยความพยายามที่จะเปลี่ยนให้หมู่บ้านในนิทานนั้นให้ “ดีขึ้น” โดยการนำสิ่งที่เขาคิดว่าดีงาม จากที่ที่เขาคุ้นเคยเข้าไป การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเสมอ การถ่ายเทวัฒนธรรมในโลกใบนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคโบราณและยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง รวดเร็วขึ้นในทุกวันนี้ด้วยการเดินทางและการสื่อสารในยุคใหม่ แต่สิ่งแปลกใหม่ที่เข้ามาสู่สังคมที่คงสภาพเดิมมาอย่างผาสุขยาวนานย่อมมีทั้งดีและไม่ดี และที่สำคัญหลายคนที่พยายามนำมันเข้าไปอาจจะไม่เคยถามคนดั้งเดิมของสังคมว่ามันเป็นประโยชน์ให้กับพวกเขาแค่ไหน เขาต้องการมันหรือไม่

Salmon Fishing ที่นอร์เวย์

ผมรัก Fly Fishing เพราะมันพาผมไปอยู่ในที่สวยที่สุดในโลกหลายๆแห่งที่น้อยคนจะได้เห็น ครั้งนี้มันพาผมไปตกปลาแซลม่อนที่แม่น้ำที่งดงามของ Norway ผมได้ไปสัมผัสกับเรื่องราวของปลาแซลม่อนที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งของโลกใบนี้ แต่คนเรากลับมองข้ามความสำคัญของมันและทำลายความอุดมสมบูรณ์ที่ล้ำค่านี้ไปจนเหลือเพียงเศษเสี้ยวของที่เคยมีในอดีต

Fly Fishing Yellowstone

ทริปตกปลาที่ Yellowstone National Park ที่ที่หลายคนเรียกว่า Shangri-la ของนักตกปลาเทร้าท์

Most Popular

%d bloggers like this: